จบกันไปแล้วสำหรับการแข่งขันรายการ LODI X Next IDOL ในรอบแรก จากเหล่าไอดอลผู้เข้าแข่งขันที่มีมากถึง 20 วง ที่ได้มาประชัน Battle กันอย่างดุเดือด จนได้ผู้ชนะทั้งสิ้น 10 วง งานนี้เรา IDOLTH เลยจะมาสรุป Recap ให้ฟังกันว่า การแข่งขันทั้ง 10 คู่นั้นเป็นยังไงกันบ้าง และเราได้เหล่าผู้ชนะที่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปเป็นไอดอลวงไหนบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลย!

1. FEVER VS REDSPIN

การแข่งขันในคู่แรกกับ ช้าง ชน ช้าง ที่บอกได้เลยว่าถือเป็นคู่เอกของการแข่งขันในรอบแรกเลยก็ว่าได้ กับวงไอดอลสาย Syn-Pop อย่าง FEVER ที่ขนเพลงใหม่อย่าง The Feeling มาโชว์ ปะทะกับไอดอลสาย T-Pop อย่างวง Red Spin ที่มิกซ์เพลง แฟนในอนาคต (Tie Me Up) มาใหม่เพื่อเพิ่มการเต้นเบรกแด้นซ์เข้าไปอย่างสุดมันส์เข้าไปด้วย ถือเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด จนน่าเสียดายที่ต้องเลือกแค่วงใดวงหนึ่งให้ผ่านเข้ารอบ

สรุปผลการแข่งขัน >> FEVER ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 1

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> ซู FEVER

2. Sixter VS Violet Wink

การแข่งขันในคู่ที่ 2 ที่จับคู่มาเจอกันได้สมน้ำสมเนื้อ กับไอดอลสาย Dance ชน Dance กับไอดอลวงน้องใหม่อย่าง Sixter ที่ถึงแม้จะเป็นวงน้องใหม่ที่ไม่มีคนรู้จัก แฟนคลับก็ยังน้อยอยู่ แต่ก็สามารถสู้ได้สมน้ำสมเนื้อ กับการโชว์เพลง ใจเย็นก่อน (TAKE IT EASY) ที่แด้นซ์กระจายจริงๆ เพื่อดวลกับ Violet Wink วงไอดอลสายแด้นซ์ในวงการไอดอลอีกวงที่มากับเพลง Breathing โดยงานนี้ก็เฉือนคะแนนกันไปได้แบบเฉียดฉิวที่ว่า ใครชนะก็สมเหตุสมผลทั้งคู่จริงๆ

สรุปผลการแข่งขัน >> Violet Wink ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 1

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> อัลตร้า Violet Wink

3. S16 New Gen Project VS Shining Star

ตัวแทนจากค่าย Yoshimoto ที่ส่งวงน้องสาวที่เป็นเทรนนีอยู่อย่าง S16 New Gen Project มาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เลือกวงไอดอลอย่าง Shining Star ขึ้นมาแข่งขัน ซึ่งทาง Shining Star ก็ได้เลือกเพลง Roller Coaster ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัววงมาแสดง ประชันกับทาง S16 ที่เอาเพลงเอกของวงพี่อย่าง เพลงปิ้งย่าง ที่มีจังหวะสนุกสนานมาแข่งขัน

สรุปผลการแข่งขัน >> S16 NEW GEN PROJECT ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 0

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> มินนี่ S16 NEW GEN PROJECT

4. Tossagirls VS AKIRA-KURO

เป็นอีกหนึ่งคู่เด็ดอีกคู่ที่เลือกมาชนกันได้อย่างเหมาะสม กับไอดอลสายดุดันทั้งคู่ เมื่อ Tossagirls ของ คุณเก่ง ธชย ผู้ชำนาญในเรื่องการออกแบบท่าเต้นเด็ดๆ สำหรับการโชว์อยู่แล้ว มาสู้กับวงไอดอลสายขบถอย่าง Akira-Kuro งานนี้ Tossagirls ก็นำเพลง กราบงามๆ (TRAUMATIC SOUL) มาเต้นแบบสุดมันส์ให้ดู แบบที่ว่าคนดูต้องโยกหัวตามกันเลย และทาง Akira-Kuro ก็ไม่น้อยหน้า เลือกเพลงเด็ดสุดมันส์อย่าง NEVER GiVE UP มาแสดง

สรุปผลการแข่งขัน >> Tossagirls ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 0

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> สไบ TOSSAGIRLS

5. Daisy Daisy VS Sumomo

คู่แรกของตอนที่ 5 กับไอดอลสาวมากประสบการณ์อย่าง Daisy Daisy ที่จะได้ปะทะกับวงไอดอลน้องสาวจากวงไอดอลญี่ปุ่นอย่างวง Sumomo ที่งานนี้เดาไม่ถูกเลยว่าทีมไหนจะชนะ เพราะเป็นสองวงที่มีสไตล์เพลง ที่แตกต่างกันอย่างมาก งานนี้ Daisy Daisy ถึงกับมิกซ์เพลงมาใหม่ เพื่อแสดงด้วยโชว์สุดพิเศษกับเพลง Heal + Daisy Daisy แถมบวกด้วยท่อนร้องภาษาญี่ปุ่น ถือเป็นโชว์ที่ตื่นตาตื่นใจมาก ทางฝั่ง Sumomo ก็เลือกเพลงช้าหน่อยของวงอย่างเพลง My Dear มาแสดง ซึ่งก็ถือว่ามีไลน์การเต้นที่สวยงามเช่นเดียวกัน

สรุปผลการแข่งขัน >> Daisy Daisy ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 0

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> หนิงหนิง Daisy Daisy

6. WISH23 VS I-MI

ไอดอลจากภาคเหนืออย่างวง WISH23 ที่มีความน่ารักของสาวเหนือ ได้เลือกแข่งกับวง I-MI วงไอดอลจากค่าย DM66 ที่งานนี้ถือว่าเป็นมวยถูกคู่อีกวงเช่นกัน โดยทาง WISH23 ก็ได้เลือกแสดงด้วยเพลงซิงเกิ้ลหลัก ปรารถนา ส่วนทาง I-MI ก็เอาเพลงซิงเกิ้ลหลัก Rocket มาแสดงให้แฟนๆ ได้ชมกัน

สรุปผลการแข่งขัน >> I-MI ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 0

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> มายเดียร์ I-MI

7. Pretzelle VS Cheesy Pie by CM Cafe

สำหรับคู่ที่ 7 นี้ Pretzelle คือวงที่ถูกจับฉลากขึ้นมาได้ และต้องเลือกที่จะประชันกับวงไอดอลที่เหลือ ซึ่งได้คู่แข่งคือ Cheesy Pie จากค่าย Cm Cafe งานนี้สามสาว Pretzelle ก็ได้เลือกเพลงซิงเกิ้ลหลักอย่าง ไหวมั้ย มาโชว์ เพื่อประทะกับ Cheesy Pie ที่เลือกเพลง ขอโทษที่สวย มาแข่งขัน เป็นอีกคู่ที่แข่งด้วยความน่ารักจนพี่กอล์ฟต้องละลายเลยทีเดียว

สรุปผลการแข่งขัน >> Pretzelle ชนะไปด้วยคะแนน 3 ต่อ 0

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> ไอซ์ Pretzelle

8. Secret12 VS AMERYU

วงไอดอล Secret12 ส่งตัวแทน 5 สาว มาเข้าแข่งขันในครั้งนี้ และเลือกแข่งขันกับวงไอดอลสาวอย่าง AMERYU โดยทาง Secret12 ก็ได้เลือกเพลงใหม่ล่าสุดอย่าง Look At Me มาแสดงให้ได้ชมกัน ซึ่งยังมีมิยู และจินจินเป็นคนแด๊นซ์โชว์ในท่อนเบรกแด๊นซ์อีกด้วย ทางฝั่ง Ameryu ก็ยกเพลงใหม่อย่างเพลง Balance Balance มาแสดง

สรุปผลการแข่งขัน >> Secret12 ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 1

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> แอมโกะ Secret12

** เนื่องด้วยสมาชิกวง Secret12 เดิมทั้งหมดได้จบการศึกษาออกจากวงแล้ว แต่จะยังเข้าแข่งขัน LODI X ในรอบต่อไปในชื่อวง Peach You แทน

9. ASTER VS SY51

วงไอดอลจากค่าย Merry Go Sound อีกวงอย่าง ASTER ได้เลือกคู่แข่งเป็นวงไอดอลจากภาคเหนือ SY51 ที่ตอนนี้เหลือสมาชิกเพียงไม่กี่คนแล้ว แต่ก็ยังเดินหน้าเข้าแข่งขันในรายการนี้เช่นกัน โดยทาง ASTER ก็ได้เลือกเพลงซิงเกิ้ลแรก ร้ายนะคะ แต่รักหมดใจ มาแสดงในครั้งนี้ ในฝั่งของ SY51 ก็เลือกเพลงในซิงเกิ้ลแรกอย่างเพลง สะพานสายรุ้ง มาแสดง พร้อมกับมีกิมมิคพิเศษกับการใช้ร่มที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือมาประกอบการแสดงอีกด้วย

สรุปผลการแข่งขัน >> SY51 ชนะไปด้วยคะแนน 3 ต่อ 0

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> ปาล์มมี่ SY51

10. Siam Dream VS Melt Mallow

คู่สุดท้ายกับการแข่งขันกันของวงไอดอล Siam Dream ที่เพิ่งฟอร์มทีมเป็นสมาชิกรุ่นใหม่ แข่งกับวงไอดอลแบนด์อย่าง Melt Mallow สำหรับงานนี้สยามดรีมก็ได้เลือกเพลงใหม่ล่าสุดอย่างเพลง Long Distance มาแสดงที่เวที Lodi X เป็นที่แรก (ขณะถ่ายทำรายการ เพิ่งเปิดตัวสมาชิกใหม่ไม่ถึง 1 สัปดาห์) สำหรับในฝั่งของ Melt Mallow ก็ไม่น้อยหน้าก็ขนเพลง Which Witch ในธีมแม่มดมาแสดงให้ได้ชมกัน

สรุปผลการแข่งขัน >> Siam Dream ชนะไปด้วยคะแนน 2 ต่อ 0

Rising Star ประจำการแข่งขัน >> ไอซ์ Siam Dream

ก็ถือว่าจบไปแล้วกับรายการแข่งขัน LODI X Next IDOL ในรอบแรก จากไอดอลทั้งหมด 20 วง ก็ได้ผู้เข้าแข่งขันต่อในรอบต่อไป ทั้งสิ้น 10 ทีม ซึ่งสำหรับในรอบที่ 2 จะเป็นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกวงไอดอลที่ได้คะแนนสูงสุด 3 อันดับ ซึ่งจากตัวอย่าง จะได้เห็นว่าน้องๆ ไอดอลจะเลือกร้องเพลงอิสระ ที่ไม่ใช่เพลงวงด้วย เรียกได้ว่าน่าติดตามกันสุดๆ ก็ติดตามดูกันต่อได้ในสัปดาห์หน้า !!!

ติดตามอัพเดทได้ทางเพจ https://www.facebook.com/lodixthailand

ในช่วงหลังโควิดที่วงการไอดอลไทยเริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง การจัดงานไอดอลเริ่มมีมากขึ้น รวมไปถึงผู้ผลิตคอนเท้นต์ก็เริ่มนำไอดอลมาทำรายการกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น LODI X ของทาง Workpoint ที่เพิ่งถ่ายทำและการแข่งขัน eSport PUBG ของทาง Online Station ก็เป็นการนำเอาไอดอลมากมายมาแข่งขันกัน แต่เรื่องที่น่าตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ นั้นก็คือการมาของรายการ Last IDOL รายการ IDOL Survival ของแท้จากทางญี่ปุ่น ที่จะเข้ามาดำเนินการแข่งขันในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้นั้นเอง

LAST IDOL คืออะไร ?

Last IDOL (ลาสต์ไอดอล) มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น เป็นรายการแข่งขันกึ่ง Reality Show ที่มีรูปแบบแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่งโปรดิวเซอร์ของรายการนี้นั่นก็คือ อากิโมโต้ ยาสุชิ (Akimoto Yasushi) หรือที่รู้จักในชื่อเล่นว่า อากิพี ผู้อยู่เบื้องหลังไอดอล 48G และ 46G ของญี่ปุ่นนั้นเอง

สำหรับรูปแบบรายการ ก็จะเป็นการออดิชั่นคัดเลือกตัวแทนไอดอลมาทั้งหมด 7 คน ซึ่งผู้ที่ถูกเลือกทั้ง 7 คนนี้จะยังไม่ได้ถือว่าเป็นผู้ชนะ โดยในแต่ละสัปดาห์ของรายการ จะมี ผู้ท้าชิง มาขอท้าดวลกับ 1 ในสมาชิกทั้ง 7 เช่นถ้าอยากได้ตำแหน่งเซ็นเตอร์ของวง ก็ท้าชิงกับเซ็นเตอร์ซะเลย หากท้าชิงแล้วสามารถเอาชนะเซ็นเตอร์คนเดิมได้ ผู้ท้าชิงนั้นก็จะได้เข้าไปอยู่แทนที่เซ็นเตอร์คนเดิมคนนั้น ส่วนเซ็นเตอร์คนเดิมก็จะหลุดออกจากวงทันที โดยการตัดสินก็จะมีกรรมการเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งระยะเวลาของการแข่งขันจะกินระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งไอดอลที่สามารถยืนอยู่ในตำแหน่งได้จนจบรายการ ก็จะได้เป็น Last IDOL นั้นเอง

สำหรับผู้ที่มาท้าชิงตำแหน่งนั้น ก็มีทั้ง อดีตไอดอลที่จบการศึกษาจากวงอื่นมาแล้ว นักร้องสาวเสียงดีผู้อยากมาเป็นไอดอล หรือแม้กระทั่งไอดอลที่ยังสังกัดวงอื่นก็สามารถมาขอท้าชิงได้ โดยมีเงื่อนไขว่าสามารถทำงานควบวงได้ ก็สามารถมาเข้าท้าชิงได้ (แต่จะยืนระยะได้จนจบรายการไหม ก็ต้องลุ้นกันดู) จุดเด่นที่สำคัญของรายการคือ หากไอดอลที่อยู่ในวงแพ้ ก็จะต้องออกจากวงไปทันที และไม่สามารถกลับเข้ามาได้อีก เรียกได้ว่า แพ้ครั้งหนึ่งก็ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวได้อีกเลย ความดราม่ามันจึงบังเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ความหัวร้อนของผู้ชมรายการ การคอมเม้นท์ในโซเชี่ยลต่างๆ การตัดสินของกรรมการที่เป็นจุดสำคัญในการคัดคนออก หรือกับผู้เข้าแข่งขันเอง ที่หากชนะจะได้อยู่วงต่อ และหากเพื่อนในวงถูกท้าชิงจนพ่ายแพ้ออกจากวง ก็ต้องยอมรับสมาชิกคนใหม่ที่เข้ามาแทนที่เพื่อนคนเก่าได้เสมอ มันจึงเป็นรายการที่มีทั้งความสนุก และดราม่า น้ำตานองทุกสัปดาห์

โดยของรางวัลของผู้ชนะนั้นก็คือการได้เดบิ้วท์เป็นยูนิต และได้ออกซิงเกิ้ล และแน่นอนว่าผู้ที่เป็นคนโปรดิ้วเพลงให้ก็คือ อากิโมโต้ ยาสุชิ ที่แต่งเพลงและโปรดิ้วให้นั้นเอง

และสำหรับผู้ชนะในซีซั่นแรกของรายการ Last IDOL ก็ได้เพลงซิงเกิ้ลในชื่อเพลงว่า แบนด์วาก้อน ซึ่งถ้าฟังดูก็พบว่ามีกลิ่นอายของ 48G อยู่ไม่น้อย

ยังไม่จบสำหรับผู้ท้าชิงที่ตกรอบ

สำหรับผู้ท้าชิง หรือสมาชิกเดิมที่ตกรอบไประหว่างสัปดาห์ ก็มีเซอร์ไพซ์ ที่จะได้ถูกแยกเป็นยูนิตใหม่ และมีเพลงซิงเกิ้ลให้อีกด้วย ซึ่งในซีซั่นแรก ก็มียูนิตพิเศษถึง 4 ยูนิตด้วยกัน Love Cocchi, Good Tears, Shuucream Rockets และ Someday Somewhere ซึ่งแต่ละยูนิตก็มีเพลงเป็นของตัวเองอีกด้วย

การแข่งขันที่มีการเปลี่ยนแปลงกติกาตลอดเวลา

ทุกอย่างที่ได้กล่าวมานั้นเป็นแค่การแข่งขันของซีซั่น 1 ของรายการเท่านั้น ซึ่งพอซีซั่น 2 กติกาก็มีความเปลี่ยนแปลง อย่างของญี่ปุ่นก็คือ การให้ทั้ง 5 ยูนิต ที่ได้รับเลือกในซีซั่นที่ 1 มาแข่งขันกันเอง เพื่อที่จะได้ยูนิตผู้ชนะ ที่จะได้ออกซิงเกิ้ลที่ 2 ของ Last IDOL ซึ่งแข่งขันแบบพบกันหมด และใครที่ชนะมากที่สุดก็จะได้เป็นทีมที่ได้ร้องเพลงซิงเกิ้ลที่ 2 นั้นเอง

โดยซีซั่นที่ 2 ของรายการ ในแต่ละยูนิตก็จะได้โปรดิวเซอร์ฝีมือดีมากมาย ที่จะเข้ามาเป็นโค้ชประจำยูนิตที่จะคอยช่วยจัดการทั้งเรื่องเพลง ท่าเต้น การแต่งกายต่างๆ เพื่อแข่งขันกับยูนิตอื่นๆ ซึ่งของญี่ปุ่นก็มีตั้งแต่ ซึงกุ (ผู้เป็นโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงของ Hello Pro!) และ ซาชิฮาระ ริโนะ อดีตไอดอลวง AKB48 มาร่วมเป็นหนึ่งในโค้ชประจำยูนิตอีกด้วย

ผลงานในปัจจุบัน

สำหรับผลงานของ Last IDOL ในปัจจุบันก็มีการออกซิงเกิ้ลมากถึง 9 ซิงเกิ้ลแล้ว ซึ่งแน่นอนพอเป็นการแข่งขัน ไอดอลที่จะยืนเป็น Last IDOL ได้ ก็ต้องมีความแข็งแกร่งในระดับที่สูงมาก ซึ่งสมาชิก Last IDOL ปัจจุบันก็มีสมาชิกมากถึง 18 คน ด้วยกัน

ดูลิสต์รายชื่อสมาชิก Last IDOL ได้ที่นี่ https://www.generasia.com/wiki/Last_Idol

LAST IDOL เมืองไทย?

แน่นอนว่าเกริ่นนำมายาวซะขนาดนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า เรากำลังมีรายการ Last IDOL ของเมืองไทยอย่างแน่นอน ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของ 4 บริษัทใหญ่ T&B / Search Entertainment / DCN / M Picture ที่ร่วมทุนกันก่อตั้งบริษัท ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์ ด้วยทุนจดทะเบียนสูงถึง 100 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์รายการ Last IDOL ที่จะค้นหาเด็กสาวไทยที่มีความฝัน มาเข้าชิงชัยแข่งขันกันในรายการนี้

สำหรับงานเปิดตัว แถลงข่าวนั้นก็ได้มีการประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 2 ตุลาคม นี้ที่โรงภาพยนตร์ เมเจอร์รัชโยธิน งานนี้เด็ดดวงที่ อากิโมโต้ ยาสุชิ ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ของรายการจะ Video Conference มาร่วมพูดคุยกับแฟนๆชาวไทยเองเลย รวมถึงจะมีพี่ๆ จาก เสือร้องไห้ ที่จะมาเป็นร่วมสร้างความสนุกในการให้ความรู้เรื่องไอดอลแบบเริ่มต้นกันอีกด้วย และยังได้ ม่านมุกและพิมจาก Sweat16 ที่จะมาร่วมเป็นพิธีกรในรายการนี้อีกด้วย (จะเข้าร่วมแข่งขัน ท้าชิงด้วยหรือไม่ ต้องรอติดตามดู)

และไว้ยังไง IDOLTH ของเราจะนำข่าวสารมาอัพเดทให้ทราบกันอีกแน่นอน

ใกล้เข้ามาแล้วกับการแข่งขันในรายการ LODI X การแข่งขันที่รวมไอดอลมากถึง 15 วง มาแข่งขันบนเวทีเดียวกัน ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ในวันที่ 17 กันยายน นี้ ซึ่งดำเนินการโดยทีมงาน LODI X ภายใต้ Workpoint ที่จะค้นหาสุดยอดวงไอดอลหญิงที่เป็นที่สุดของเมืองไทย ในรูปแบบรายการ Survival ซึ่งจนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าการแข่งขันจะเป็นรูปแบบใด แต่เราจะมาเจาะลึกว่าในกลุ่มไอดอลที่เข้าแข่งขันนั้นมีใครบ้างที่น่าจับตามองบ้าง

**การคาดเดานี้เป็นการวิเคราะห์และประเมินผลงานจากทีมงาน IDOLTH เท่านั้น

1. FEVER

เริ่มวงแรกกับวง FEVER 12 สาว ที่มีความสามารถการ Performance บนเวทีกันแทบทุกคนอยู่แล้ว ถึงจะไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นพวกเธอออกงาน และขึ้นแสดงบ่อยมากนัก แต่ถ้าใครได้ติดตามน้องๆ วงนี้ก็จะพบว่ามีเมมเบอร์หลายคนที่มีความโดดเด่นในเรื่อง Perf เป็นอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือน้องบอส ที่เคยเข้าประกวดการแข่งขันในรายการ The Voice มาก่อน และยังมีผลงานเพลง Cover ร่วมกับ MadpuppetStudio มาให้ชมอยู่บ่อย และผลงานล่าสุดอย่างเพลง คงคา ก็ต้องบอกเลยว่า เสียงร้องของเธอนั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

2. Sixter

6 สาว วงไอดอลน้องใหม่จากค่าย BROS MUSIC กับ อิง เฟิร์น มะปราง มัช เบลล์ และ แก้ว ที่เพิ่งจะได้ปล่อยผลงานซิงเกิ้ลแรก “ใจเย็นก่อน” มาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กับสไตล์การร้องที่มีกลิ่นอายของ T-Pop บวก K-POP ในด้าน Perf แล้ว เราอาจจะยังไม่ค่อยได้เห็นนัก เพราะเป็นวงน้องใหม่ที่ยังไม่ค่อยได้ออกงานแสดงมากนัก แต่ภายในวงก็ยังมีเมมเบอร์ที่เด่นในด้านการร้องอยู่เหมือนกัน เช่น น้องมัช และน้องเบลล์

3. SUMOMO

ไอดอลวงน้องสาวของวงไอดอล FES☆TIVE จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของ Perf การเต้นและการแสดงกันทั้งวงอยู่แล้ว แต่ถ้าให้เลือกคนที่มีพลังในด้านเสียงร้องที่น่าจับตามองคงต้องยกให้กับน้องใบเตย ที่มักจะมาร้องเพลง Cover ให้เราฟังกันอยู่บ่อยๆ แถมเธอยังมีความรู้ในด้านภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย แต่ก็ไม่แน่เมมเบอร์คนอื่นในวงที่ยังไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ อาจจะได้ปล่อยของกันในรายการนี้ก็เป็นได้

4. Pretzelle

สามสาวจากวง Pretzelle ที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมากถึงความสามารถของพวกเธอ เพราะแฟนๆ ที่ติดตามผลงานของพวกเธอมาก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า 2 เมมเบอร์สาย Vocal ของวงอย่างน้องบะหมี่และน้องอิ้น คือนักร้องเสียงดีสุดๆ เรียกได้ว่าจะยกให้เป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ของการแข่งร้องเลยก็ได้ ผลงานล่าสุดอย่างเพลง DYNAMITE ที่นำเพลงของวงเกาหลี BTS มา Cover ใหม่ในสไตล์ของตัวเองก็ต้องบอกเลยว่าฟังเพลินมิใช่น้อย

5. I-MI

อีกหนึ่งวงไอดอลน้องใหม่ ที่แฟนๆ คุ้นหน้ากันดี กับวงไอดอลไอมิ ที่มีสมาชิกหลายคนอยู่ในวงการเต้นโควฟเวอร์มาอย่างยาวนานในชื่อกลุ่ม FMA Group ที่น้อยคนในวงการโควฟเวอร์จะไม่รู้จักวงโควฟวงนี้ ดังนั้นในเรื่องของการเต้น เรียกได้ว่าไม่มีอะไรน่าห่วงเลย เหล่าเมมเบอร์รุ่นพี่ใหญ่ในวงอย่าง ยุ้ย อินอิน มายเดียร์ น่าจะฝึกซ้อมน้องๆ กันอย่างหนักเพื่อเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้แน่นอน

6. Daisy Daisy

ไอดอลอีกวงที่มีแฟนคลับติดตามอย่างเหนียวแน่น และสมาชิกทุกคนก็พิสูจน์ผลงานกันมาแล้วว่ามีฝีมือกันแค่ไหน แต่ถ้าจะให้ยกว่าเมมเบอร์คนไหนที่มี Perf ในด้านการร้องที่โดดเด่น ก็ต้องยกให้กับแฮมมี่ สาวน้อยเสียงดี ที่เคยออกรายการ I Can See Your Voice มาแล้ว แถมยังมีผลงานเพลงโควฟเวอร์เพลงเพราะๆ มาให้แฟนๆ ได้ฟังกันอยู่เสมอ ก็ต้องดูว่าในการแข่งขันนี้เธอจะมีของดีอะไรมาโชว์ให้ได้เห็นกัน

7. Akira-Kuro

เหล่าไอดอลสาย Rock ที่มีความขบถในตัว และประสบการณ์ที่ยาวนานกว่าไอดอลหลายๆ วง วงนี้ถึงแม้เราจะไม่ได้เห็นผลงานในด้านการร้องเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคนนัก แต่ในด้านการเต้นและ Perf บนเวที เชื่อได้เลยว่าพวกเธอเอาเวทีอยู่อย่างแน่นอน ก็ต้องรอติดตามชมกันว่าพวกเธอจะเอาอะไรมาโชว์ให้ได้เห็นกันบ้าง

8. Secret12

กลุ่มไอดอลสาว Secret12 ที่ส่ง 5 ตัวแทน กะตัง จินจิน แอมโกะ มิยู และ ราลี มาร่วมแข่งขันในงานนี้ด้วย ในด้านการร้องอาจจะคาดเดาไม่ได้ว่ามีใครที่มีความโดดเด่น แต่ในเรื่อง Perf การเต้น ก็คงต้องยกให้กับสองสาว จินจิน และมิยู ที่มีประสบการณ์ในการเต้นโควฟเวอร์มาก่อนอย่างยาวนาน แถมในผลงานเพลงล่าสุดอย่างเพลง Look At Me จะมีท่อนที่ทั้งคู่ได้โชว์ท่อน Duo Dance Perfermance กันอีกด้วย ก็ถือเป็นความโดดเด่นที่น่าจับตามองเช่นกัน

9. Red Spin

อีกวงไอดอลที่น่าจับตามอง กับวงไอดอล Red Spin จากเครือ BHX ที่มีผลงานเพลงฮิตดังๆ ที่เริ่มจากเพลงใน Tik Tok จนตอนนี้ดังไกลทั่วกรุงไปแล้วกับเพลง “สวม กด ห่าง” ที่นำเพลงแฟนในอนาคตมาแปลงใหม่ และเปิดในสถานีรถไฟฟ้า MRT ทุกสถานีทั่วกรุงเทพ เรียกว่าขึ้นรถต้องได้ยินกันแน่ๆ แค่นี้ก็การันตีคุณภาพของสาวๆ Red Spin แล้ว ถ้าจะให้เจาะจงเป็นรายคน ก็ต้องบอกเลยว่าเลือกยากจริงๆ เอาว่า ไปดูจาก Perf แบบ Acoustic ที่คลิปด้านล่างนี้ละกัน บอกเลยว่า วงนี้ ครบเครื่อง !! จับตาดูได้ทั้งวง

10. Cheesy Pie

ยูนิตที่ถูกส่งเข้าประกวดจากค่าย CM Cafe กับยูนิต Cheesy Pie ที่มีประสบการณ์ในวงการไอดอลมากว่า 1 ปี เมมเบอร์ในยูนิตนี้ต่างก็มีผลงานออกมามากมาย แต่ถ้าให้เลือกคนที่โดดเด่นในเรื่องการเต้นมากที่สุด ก็คงจะเป็น อะตอม ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวงโควฟเวอร์ FMA Group ที่มีประสบการณ์ในการเต้นมาอย่างยาวนาน ก็น่าเสียดายที่สาวเสียงดีของยูนิต Daifuku อย่างแพรววาได้แยกออกไปเป็น Soloist แล้ว และไม่ได้เข้าแข่งขันในรายการนี้ ไม่งั้นเราน่าจะได้เห็นตัวแทนทีมร้องที่โดดเด่นอีกคนก็เป็นได้

11. Melt Mallow

วงไอดอล Brand ที่ครบเครื่องทั้งการร้อง เต้น และการเล่นดนตรี ล่าสุดก็เพิ่งปล่อยผลงานซิงเกิ้ล “เป็ด” ออกมา ในด้านความสามารถของแต่ละคนก็ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน สำหรับเมนร้องของวงที่เราคิดว่าโดดเด่นก็คือ น้องข้าวเจ้า ที่มีคลิปร้องเพลงลงในช่องของ Melt Mallow ที่เราคิดว่าเสียงของน้องนั้นดูโดดเด่น และน่าจับตามองทีเดียว

12. AMERYU

อีกวงไอดอลตัวแทนจากค่าย Siam Dol วงไอดอลน้องสาวของวง W. จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการเต้นกันทุกคนอยู่แล้ว แต่ถ้าคนที่มีความโดดเด่นที่สุด ก็คงต้องยกให้กับสโนว์พลอย ที่เรามักจะได้เห็นผลงานการเต้นหลากหลายแบบจากเธออยู่เสมอ ก็ต้องรอดูว่าเธอจะโชว์อะไรในรายการแข่งขันนี้กัน

13. Tossagirls

อีกวงไอดอลที่น่าจับตามองกับ Tossagirl ที่โปรดิวโดยคุณเก่ง ธชย ที่คุ้นเคยกับการแข่งขันในเชิงประกวดการอยู่แล้ว ย่อมต้องมีอาวุธลับมาโชว์กันอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนสมาชิกภายในวงกันครั้งใหญ่ จนตอนนี้มีสมาชิกทั้งสิ้น 5 คน แต่คนที่เราคิดว่าโดดเด่นก็คงเป็นน้องเนเน่ ที่เป็นสมาชิกตั้งแต่ก่อตั้งวงขึ้นมา โดยผลงานเด่นในด้านการร้องของเธอก็สามารถดูได้จากคลิปด้านล่างนี้เลย

14. ASTER

อีกหนึ่งวงไอดอลจากค่าย Merry Go Sound วงน้องสาวของ Daisy Daisy ที่ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ได้เดบิ้วท์อย่างเป็นทางการ แต่ก็ค่อยๆ สร้างฐานแฟนคลับอย่างต่อเนื่อง ในฝั่ง Perf เราอาจจะยังไม่ชัวร์ว่ามีใครโดดเด่น เพราะเราก็ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นน้องๆ ขึ้นเวทีบ่อยครั้งนัก แต่ในสายร้องก็คงจะยกให้น้องเดียร์ ที่มีผลงานการร้องเพลง Cover อยู่บ้างในช่อง YouTube ของน้องเอง ก็สามารถลองฟังได้ในคลิปด้านล่างนี้ และรอดูว่าวันแข่งขันพวกเธอจะมีอะไรมาโชว์

15. WISH23

กลุ่มไอดอลสาวจากเชียงใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานนัก แต่ก็มีเมมเบอร์ที่มีความสามารถหลากหลายที่น่าจับตามอง ถึงจะไม่สามารถบอกได้ว่าใครคือดาวเด่นที่น่าจับตามอง แต่การที่มีเมมเบอร์หลายคน เราอาจจะได้เห็นม้ามืดของรายการที่มาจากวงนี้ก็เป็นได้ โดยเราก็ได้เอาคลิปที่โชว์ศักยภาพการร้องของน้องๆ WISH23 มาให้ได้ฟังกัน แล้วลองดูว่าคุณจะจับตาดูสมาชิกคนไหนในการแข่งขันครั้งนี้

ก็หมดไปแล้วกับการรีวิว 15 วงไอดอล ที่จะเข้าแข่งขันในรายการ Survival LODI X ที่จะเฟ้นหาสุดยอดวงไอดอลหนึ่งเดียว ที่ถึงแม้ว่าวิธีการแข่งขันยังเป็นความลับอยู่ แต่ที่เรารู้แน่นอนคือ เราจะได้เห็นน้องๆ ไอดอลแต่ละวงได้แสดงศักยภาพของตัวเองให้แฟนๆ ได้เห็น ไม่แน่ว่าคุณอาจจะ “โดนตก” โดยน้องๆ ที่มาออกรายการนี้ก็เป็นได้ ยังไงก็รอติดตามชมกันได้เลย! เร็วๆ นี้ทางช่อง Workpoint และ YouTube : LODI X Official

ถ้าพูดกันในหมู่แฟนคลับที่ติดตามไอดอลไทย ก็คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกลุ่มไอดอลจากค่ายร้านขนมหวานที่มีชื่อว่า Cm Cafe ด้วยผลงานเพลงฮิตติดหู มากมาย ตั้งแต่ รักหนึ่งคำ ทาสแมว ขอโทษที่สวย ที่ออกมาในชื่อของยูนิต Honey Toast และ Daifuku ด้วยเหล่าไอดอลในค่ายหลายสิบชีวิต แต่เมื่อเจอกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ก็ทำให้วงการไอดอลเงียบเหงาไป

เมื่อกลับมาอีกครั้งหลังช่วงผ่อนปรนก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ขึ้นในค่าย Cm Cafe มากมาย ทั้งการจบการศึกษาของเมมเบอร์เก่าหลายคน ไข่มุก เอ็มม่า มิ้ม เนิร์ส รวมไปถึงการเปิดตัวสมาชิกเทรนนีรุ่น 2 ที่เข้ามาเพิ่มจากเทรนนีชุดแรกอีกเท่าตัว โดยในงาน IDOL Exchage ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางค่ายก็ได้เปิดตัวเหล่าไอดอลในค่ายทั้งหมด รวมไปถึงการประกาศปรับเปลี่ยนยูนิตในค่าย โดยแบ่งออกเป็น 5 ยูนิต ซึ่งวันนี้เราก็จะพาไปแนะนำให้รู้จักกันว่า ทั้ง 5 ยูนิตมีใครบ้าง

1. Honey Toast (ฮันนี่โทส)

Honey Toast ยูนิตแรกตั้งต้นของค่าย Cm Cafe กับการจบการศึกษาไปของ เอ็มม่าและไข่มุก แน่นอนอย่างที่ทุกคนรู้กันว่าสองคนนี้คือสองสมาชิกที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดของยูนิตนี้ วัดได้จากปริมาณคนต่อแถวในเลนเชกิ ที่ไม่ว่าจะงานไหนๆ แถวของสองคนนี้ก็ยาวอยู่เสมอ การจบการศึกษาของสองคนนี้ ก็ได้ถูกเติมเข้ามาด้วย 2 สาวน้องใหม่จากกลุ่มเทรนนี คือ อลิส (มีนารินทร์ ดุลยพลสิทธิ์) ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของอเล็กซิส และ แบม (สกุลกาญจน์ วิจิตรสิทธิไพศาล) ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของยูนิตนี้ หักลบกับอะตอมที่ได้ย้ายไปอยู่ในอีกยูนิตนึง ดังนั้นยูนิต Honey Toast โฉมใหม่นี้ก็จะมีสมาชิกทั้งหมด 6 คน

ยูนิตนี้จะเรียกว่ายูนิตไอดอลพี่น้องก็ว่าได้ เพราะมีคู่พี่น้องแท้ๆ ถึง 2 คู่ด้วยกัน นั้นก็คือ อเล็กซิส-อลิส และเฟย์-ฟรีม และสำหรับธีมสไตล์ของยูนิตนี้นั้นก็คือ Modern Dance ที่มีอิมเมจในแบบ Sexy & Spicy Girl ที่จะมาพร้อมกับสีประจำทีมคือ ชมพู ขาว ดำ ก็ต้องรอติดตามกันว่าเราจะได้ดูการแสดงในเพลง ทาสแมว และฉันชอบเธออีกครั้ง รวมไปถึงเพลงใหม่ของยูนิตนี้เมื่อไหร่

สมาชิกในยูนิต Honey Toast

1. มู่หลาน (Main Dance and Captain) – Mulan.Cmcafe
2. เฟย์ (Main Vocal) – Fay.Cmcafe
3. แบม (Sub Rap) – Bam.Cmcafe
4. อเล็กซิส (Main Rap) – Alexis.Cmcafe
5. อลิส (Sub Vocal) – Alice.Cmcafe
6. ฟรีม (Main Vocal) – Fream.Cmcafe

โดยผลงานล่าสุดของยูนิตนี้ก็คือเพลง ทาสแมว ที่ตอนนี้ยอดวิวทะลุ 500,000 วิว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2. Cheesy Pie (ชีสซี่พาย)

Cheesy Pie จะบอกว่าเป็นยูนิต Daifuku โฉมใหม่ก็ว่าได้ หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนสมาชิก ตั้งแต่น้องอุ๋มที่ย้ายออกไปอยู่กับไอดอลวง School Day น้องเนิร์สและน้องมิ้มที่ตัดสินใจจบการศึกษาออกจากวงเพื่อความฝันใหม่ และน้องแพรวาที่ตัดสินใจแยกตัวไปทำโซโล่ ดังนั้นยูนิต Daifuku เดิม ที่เพิ่มเติมมาด้วย อะตอม ที่ย้ายข้ามมาจากยูนิต Honey Toast ทำให้สมาชิกของยูนิตชีสซี่พายนี้มีทั้งหมด 6 คน โดยมี นาวลิ้ม ที่จะเป็นกัปตันของยูนิตนี้ และมีคอนเซ็ปของยูนิตคือ T-Pop ซึ่งนั้นคงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ต้องทำการเปลี่ยนชื่อยูนิต เพราะคำว่าไดฟุกุมันเป็นขนมญี่ปุ่นนั้นเอง สำหรับสีประจำยูนิตนี้ก็คือสีเหลือง ขาว ดำ

สมาชิกในยูนิต Cheesy Pie

1. เบบี้ (Main Vocal) – Baby.Cmcafe
2. นาวลิ้ม (Captain) – Nowlim.Cmcafe
3. แอนนา (Sub Vocal & Chorus) – Anna.Cmcafe
4. นาโฮะ (main Rap & Sub Dance) – Naho.Cmcafe
5. มีมี่ (Sub Rap & Visual) – Meemie.Cmcafe
6. อะตอม (Main Dance) – Atom.Cmcafe

สำหรับผลงานล่าสุดของยูนิตนี้ก็คือ เพลง ขอโทษที่สวย ที่ออกมาเมื่อต้นปี ก็น่าเสียดายนิดหน่อย ที่ติดช่วงโควิดพอดี ทำให้มีเวลาในการโปรโมทและเล่นเพลงนี้น้อยกว่าที่คิดไว้

3. Cherry Choux (เชอรี่ชู)

Cherry Choux ยูนิตน้องใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวกับของเหล่า Trainee CmCafe ทั้งรุ่น 1 (ก่อนโควิด) และรุ่น 2 (หลังโควิด) ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ รวมเป็น 5 สาวในนาม เชอรี่ชู โดยมีกัปตันคือมายกุ๊กเป็นคนที่จะนำทีมยูนิตนี้ โดยธีมเพลงของยูนิตคือ HipHop R&B กับรูปแบบ Funny Girl กลุ่มสาวๆ ที่มีความสนุกสนาน ตลกๆ โก๊ะๆ ที่จะเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนคลับได้ไม่ยาก ถ้าใครเคยได้เจอกับน้องๆ ทั้ง 5 คน ก็บอกได้เลยว่า มีแต่คนไม่ธรรมดาทั้งนั้น! ส่วนสีประจำยูนิตนี้คือ สีแดง ขาว ดำ

หน้าตาของขนมเชอรี่ชูก็คือ เชอรี่ + ชูครีม เป็นขนมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส เห็นจากรูปก็จะเห็นชัดว่ามันก็คือ ชูครีมมีไส้ที่โปะเชอร์รี่เอาไว้ด้านบนนั้นเอง

สมาชิกในยูนิต Cherry Choux

1. มิกิ (Main Rap) – Miki.Cmcafe
2. แชมเปญ (Main Dance) – Champagne.Cmcafe
3. มายกุ๊ก (Main Vocal & Captain) – Minekuk.Cmcafe
4. บิววี่ (Sub Vocal) – Beawwie.Cmcafe
5. เจลลี่ (Sub Dance) – Jelly.Cmcafe

โดยอัพเดตล่าสุดจากทางเพจ Cm Cafe น้องๆ ทั้ง 5 คนก็กำลังซุ่มซ้อมทำเพลงกันอยู่ มีเข้าห้องอัดกันบ้างแล้วด้วย ก็คาดว่าเร็วๆ นี้เราคงจะได้ดูได้ฟังผลงานแรกของยูนิตนี้กัน

4. Purple Sweet (เพอเพิ่ลสวีต)

Preawwa Purple Sweet หรือยูนิตน้อนมันม่วงแพรววา กับการแยกตัวออกมาจากยูนิต Daifuku เพื่อมาเป็นศิลปินเดี่ยวคนแรก และยังอยู่ภายใต้ค่าย CmCafe อยู่เช่นเดิม โดยการแยกตัวออกมาในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะเป็นนักร้องเดี่ยวในธีมเพลงแบบ Easy Listening Pop ฟังง่ายๆ สบายๆ ที่มีอิมเมจแบบ Indy หวานๆ ชวนให้หลง สำหรับสีประจำตัวก็คือ สีเหลือง ขาว ม่วง

แพรววา (Soloist) – Preawwa.Cmcafe

สำหรับใครที่อยากฟังเพลงเพราะๆ หวานๆ ตามสไตล์ของแพรววา ตอนนี้ก็สามารถไปติดตามได้ในเฟสบุ๊คของน้อง ที่มักจะมีผลงานเพลง Cover ปล่อยออกมาบ่อยๆ และในเร็วๆ นี้เราคงจะได้ฟังผลงานเพลง Original ของน้องกันแน่นอน

5. Melonpan (เมล่อนปัง)

Melonpan ยูนิตสุดท้ายกับ 7 สาวในชื่อขนมญี่ปุ่นอย่างเมล่อนปัง ที่เป็นการรวมตัวของเทรนนี Cm Cafe รุ่น 1 และ 2 อีกเช่นกัน แน่นอนว่าชื่อยูนิตญี่ปุ่นแบบนี้ ก็ต้องมาในธีมเพลงแบบ J-Pop กับสาวๆ ที่มีความน่ารักสดใสๆ โควาอี้แบบญี่ปุ่นๆ ซึ่งน้องๆ แต่ละคนก็มีความน่ารักในหลากหลายสไตล์ให้แฟนคลับได้เลือกจับจองเป็นโอชิกัน สำหรับสีประจำยูนิตนี้คือสีพาสเทล

สมาชิกในยูนิต Melonpan

1. คำปุ้ย – Kumpuy.Cmcafe
2. โฮป (Captain) – Hope.Cmcafe
3. ฟ้ามินิ – Fahmini.Cmcafe
4. นาเดียร์ – Nadear.Cmcafe
5. พิ้งค์ – Pink.Cmcafe
6. หมี่หยก – Meeyok.Cmcafe
7. เบล – Belle.Cmcafe

แน่นอนว่าพอเป็นยูนิตที่มีความเป็น J-Pop IDOL จึงมีในเรื่องของระบบเซ็นเตอร์เข้ามา โดยในซิงเกิ้ลแรกนี้ก็มีการประกาศมาแล้วว่า น้องฟ้ามินิ จะได้รับบทบาทในตำแหน่งเซ็นเตอร์นั้นเอง โดยน้องๆ ทั้ง 7 คน จะได้ขึ้นเวทีเดบิ้วท์สเตจพร้อมเพลงใหม่ประจำยูนิตอย่างเป็นทางการในงาน IDOL Exchange ในวันที่ 5 กันยายนที่จะถึงนี้ ใครที่เป็นแฟนคลับของน้องๆ Melonpan ก็อย่าพลาดมาให้กำลังใจน้องๆ กันให้ถึงขอบเวทีเลยนะ น้องๆ ต้องการกำลังใจจากคุณ!

โดยทาง Cm Cafe ก็ได้ทำคลิปแนะนำตัว 7 สาว Melonpan มาให้ได้ดูกันด้วย ไปดูกัน แล้วจะได้รู้จักกันน้องๆ Melonpan มากยิ่งขึ้น

ไอดอลจากค่าย Cm Cafe โฉมใหม่ ที่มีไอดอลในค่ายมากถึง 25 คน กับการแบ่งออกเป็น 5 ยูนิตที่มีสไตล์และรูปแบบที่ชัดเจนมากกว่าเดิม ก็น่าจะสามารถสร้างฐานแฟนคลับได้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน พิสูจน์ได้จากการออกงานต่างๆ ในเดือนสิงหาคม ที่ได้รับการตอบรับจากแฟนคลับมากมาย แถวเชกิที่มาหาน้องๆ ก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละงาน

สำหรับใครที่อยากรู้จักน้องๆ ไอดอลค่าย Cm Cafe มากกว่านี้ ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ น้องๆ ก็จะได้ไปร่วมงาน Sneakers Showcase ที่จะจัดขึ้นที่ห้าง Terminal 21 เดินทางง่ายๆ ติดรถไฟฟ้าทั้ง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท โดยงานนี้ก็มีน้องๆ ที่จะเข้าร่วมงานมากถึง 4 ยูนิตด้วยกัน ขาดก็แต่ยูนิต Melonpan ที่ไม่ได้มา ซึ่งคาดว่าคงจะเก็บตัวซุ่มซ้อมเพื่อเตรียมที่จะเดบิ้วท์อย่างเป็นทางการแน่นอน ใครที่เป็นแฟนยูนิต Melonpan ก็อดใจรอหน่อยนะ แล้วอย่าลืมมาเจอกันครบทั้ง 5 ยูนิตได้ในงาน IDOL Exchange วันที่ 4-6 กันยายน นี้ ที่ห้าง MBK Center

ติดตามข่าวสารและอัพเดทข้อมูลของค่าย Cm Cafe ได้ที่ https://www.facebook.com/Cmcafeofficial/

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Idol i go และ Cm Cafe Official

เปิดตัวกันแบบเซอร์ไพซ์ไปหมาดๆ สำหรับ Title ของซิงเกิ้ลลำดับที่ 9 ของ BNK48 ที่ถูกประกาศในรายการ Digital Live Studio ในวันนี้ (9 ก.ค) สำหรับซิงเกิ้ลนี้ก็เป็นซิงเกิ้ลที่มีเซ็นบัตสึ และเซ็นเตอร์ที่ถูกเลือกจากแฟนคลับ จากงานเลือกตั้ง ครั้งที่ 2 ซึ่งผู้ที่จะได้เป็นเซนเตอร์ของซิงเกิ้ลในครั้งนี้ก็คือ เจน (กุลจิราณัฐ อินทรศิลป์) สมาชิกรุ่น 1 ของ BNK48

” ปุปะดังเสียงป๊อบคอร์น ระเบิดจนแยกกระเด็น “

คือคำแปลเนื้อภาษาไทยท่อนแรกของเพลง Heavy Rotation ที่ถูกนำมาร้องในงาน AKB48 Group Asia Festival 2019 เมื่อปีที่ผ่านมา กับการแปลเพลงนี้เป็นหลายภาษา ตามภาษาถิ่นของวงน้องสาว 48Group ซึ่งในขณะนั้น เฌอปราง มิวสิค และปัญ คือตัวแทนของวง BNK48 ที่ได้ร่วมร้องและเต้นเพลงนี้ร่วมกับเหล่าพี่สาวน้องสาวที่มาจากต่างเมืองของ 48Group ทั่วโลก สร้างเสียงฮือฮาให้กับเหล่าแฟนคลับในไทยมาโดยตลอด ว่าอีกไม่นาน แฟนชาวไทย อาจจะได้ฟังเพลงนี้ในเวอร์ชั่นภาษาไทยแบบเต็มๆ เพลงก็เป็นได้

จากวันนั้น ก็ถือว่ายาวนาน ถึง 1 ปีครึ่ง กว่าเราจะได้มีโอกาสฟังเพลงนี้อีกครั้งในแบบฉบับเนื้อร้องภาษาไทยจริงๆ ซักที ซึ่งด้วยความคาดหวังของแฟนคลับจำนวนมาก ที่เรียกร้องให้นำเพลงนี้มาใช้เป็นเพลงซิงเกิ้ลซักที (ตั้งแต่หลังการแสดงนี้จบ ก่อนที่ซิงเกิ้ลที่ 5 จะกลายเป็น Beginner และต่อด้วยอัลบัมที่ 2 เป็น Jabaja) บวกกับด้วยเงื่อนไขพิเศษที่ผู้ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ มีโอกาสที่จะ เลือก เพลงที่อยากได้มาเป็นเพลงประจำตัวอีกด้วย ทำให้แฟนคลับต้องมาลุ้นกันว่า เจน ผู้ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะเลือกเพลงอะไรมาเป็นเพลงประจำตัว ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ได้รู้พร้อมกันในวันนี้ว่าเพลงนั้นคือ Heavy Rotation

ประวัติความเป็นมา

Heavy Rotation อ่านว่า เฮฟวี่โรเทชั่น หรือถ้าอ่านแบบคนญี่ปุ่นจะออกเสียงเป็น เฮบิโรเทช่อน เป็นซิงเกิ้ลลำดับที่ 17 ของ AKB48 วางแผงครั้งแรกในวันที่ 18 สิงหาคม 2010 หรือกว่า 10 ปีที่แล้วพอดี แถมซิงเกิ้ลนี้ก็เป็นซิงเกิ้ลที่ได้เซมบัตสึทั้ง 16 คน มาจากการเลือกตั้ง ครั้งที่ 2 ของ AKB48 เช่นกัน โดยได้ โอชิมะ ยูโกะ เป็นเซ็นเตอร์ในเพลงนี้

โดยเพลง Heavy Rotation นี้ ก็ถือเป็นเพลงดังลำดับต้นๆ ของ AKB48 พิสูจน์ได้จาก

• เป็นซิงเกิ้ลแรกที่มียอดขาย 650,000 ก๊อปปี้ ในปี 2010 (ซิงเกิ้ลก่อนหน้านี้ Ponytail to Shushu ที่เป็นซิงเกิ้ลโหวตขายได้ราวๆ 500k ก๊อปปี้)
• เป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีเป็นอันดับที่ 2 ของชาร์ตเพลงญี่ปุ่นในปี 2010
• เป็นเพลงซิงเกิ้ลของ AKB48 ที่ติดชาร์ตเพลงนานที่สุดถึง 123 สัปดาห์
• เป็นเพลง Top List ของร้านคาราโอเกะทั่วญี่ปุ่น ที่ใครๆ ก็เลือกร้อง

จากบทพิสูจน์นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าเพลง Heavy Rotation เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมากพอสมควรเพลงนึงเลยทีเดียว

ที่มาของความสำเร็จ

ทีนี่เรามาดูกันว่า ทำไมเพลงนี้ถึงได้ประสบความสำเร็จนัก ก็ต้องเล่าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในปี 2010 กันเสียก่อน ในช่วงนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นช่วงที่กระแสเพลงสไตล์ J-Pop นั้น ซบเซาเป็นอย่างมาก ด้วยกระแสวัฒนธรรม K-Pop ที่เริ่มแพร่กระจายไปทั่วเอเชียและทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหนังรักเกาหลีที่เรารู้จักกันดีอย่าง Autumm in My Heart แฟชั่น การแต่งตัว การแต่งหน้า รวมไปถึงสไตล์เพลงแบบ K-Pop ที่โด่งดังเป็นพลุแตก ไม่ว่าจะเป็น Wonder Girls หรือ Girls’ Generation

การมาของเพลงสไตล์ K-Pop ที่มีบีทหนักๆ มีการผสมเสียงแนวอิเล็กโทรนิค มีท่อนแร๊บ และมีท่าเต้นที่มีเอกลักษณ์ เริ่มรุกรานมาเรื่อยๆ ทำให้วงการเพลงของญี่ปุ่นในช่วงนั้นอยู่ในช่วงตกต่ำถึงขีดสุด พูดง่ายๆ ว่ากระแส J-Pop ไม่ใช่เมนหลักของฝั่งเอเชียอีกต่อไป

และในตอนนั้นเอง ที่ AKB48 ได้ออกเพลง Heavy Rotation ที่ทำให้วงการเพลงของญี่ปุ่นเกิดความตื่นตัวมากยิ่งขึ้น กับเพลงไอดอลที่มีความเป็นมากกว่าเพลงไอดอล ด้วยสไตล์เพลงที่มีกลิ่นอายความเป็น J-Pop แบบที่มีดนตรีหนักๆ มีการใช้เสียงเครื่องดนตรีที่มีความหนักแน่น ทั้งเบส และกลอง ที่เมื่อได้ฟังแล้วก็ต้องรู้สึกอยากโยกตาม พร้อมกับการปล่อย MV เพลงที่มีความสดใสร่าเริงปนเซ็กซี่ของความเป็นสาววัยรุ่น และท่อนฮุกที่เป็นภาษาอังกฤษที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก อย่าง…

I want you !
I need you !
I love you !

สามท่อน ที่ดูง่าย แต่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ที่ทำให้เพลงนี้เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย เรียกได้ว่าในปี 2010 นั้น ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ ในประเทศญี่ปุ่น ก็ต้องได้ยินเสียงเพลงนี้อย่างแน่นอน เรียกได้ว่า นั้นคือปรากฎการณ์ครั้งใหม่ของวงการเพลงไอดอลญี่ปุ่นที่สามารถสร้างกระแส J-Pop ขึ้นมาได้ ทำให้ไอดอลญี่ปุ่นรวมถึงวัฒนธรรมเพลงของญี่ปุ่นเริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซาไปซักพักหนึ่ง

ความหมายของเพลงนี้

แล้วคำว่า Heavy Rotation คืออะไร แล้วเนื้อเพลงนี้เล่าถึงเรื่องอะไร? ถ้าให้พูดกันจริงๆ แล้วเพลงนี้ไม่ได้เป็นเพลงที่มีความหมายดี หรือลึกซึ้งแต่อย่างใดเลย เพลงเล่าถึงการเปรียบเทียบเรื่องความรักกับการเปิดเพลงซ้ำๆ ตามคลื่นวิทยุ ที่มักจะมีการเปิดเพลงซ้ำๆ วนๆ อยู่ตลอด ใน 24 ชั่วโมง แบบที่ว่า เจอเพลงเดิมนี้ เปิดอยู่ทุกๆ ต้นชั่วโมงทั้งวัน ยังไงก็ว่าได้

I want you! (I want you!)
I need you! (I need you!)
I love you! (I love you!)
.
atama no naka
GANGAN natteru MUSIC
เพลงที่ดังก้องอยู่ในหัว
.
Heavy Rotation

กับเพลงในท่อนสุดท้าย

itsumo kiiteta favorite song
เพลงโปรดที่ได้ฟังอยู่ตลอดเวลา

ano kyoku no you ni
อยากให้เหมือนเพลงนั้น

zutto kurikaeshite 24 (nijuuyo) jikan
ที่เปิดซ้ำๆ 24 ชั่วโมง

เป็นการอยากให้เรื่องราวของความรักที่หอมหวาน วนเวียนอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เหมือนดั่งเพลงที่เปิดวนซ้ำตามคลื่นวิทยุนั้นเอง

แล้วเพลงนี้จะดังไหม?

สำหรับเพลงนี้แล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นเพลงอันดับต้นๆ ที่แฟนคลับ BNK48 เฝ้ารอ ที่จะให้นำมาแปลเป็นภาษาไทยอยู่แล้ว บวกด้วยสถานการณ์ Covid-19 ที่แน่นอนว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้วงการไอดอลในไทยซบเซาไปนานถึง 4 เดือนเต็มๆ จุดเด่นของไอดอลที่แฟนๆ สามารถไปพบได้ (ตามงานอีเว้นท์, งานจับมือ) หรือไอดอลเดินทางไปพบปะกับแฟนๆ (ตามโรดโชว์ต่างๆ) ต้องถูกเบรกไปทั้งหมด ด้วยสถานการณ์อย่างที่เรารู้กัน ทำให้การตัดสินใจเลือกเพลงนี้มาใช้ถือเป็นจุดที่น่าจะซื้อใจแฟนคลับได้พอสมควรเลย เพราะแน่นอนว่าแฟนคลับที่ทุ่มเทโหวตในช่วงสถานการณ์โควิดและเศรษฐกิจที่ถดถอย ย่อมคาดหวังกับซิงเกิ้ลที่จะออกมานี้ แถมทาง BNK48 เอง ก็มีเวลาในการเตรียมตัวนานหลายเดือนในช่วงที่พักเบรกไป การที่เว้นระยะเวลาไปนานขนาดนี้แล้วออกเพลงที่ไม่ประทับใจแฟนคลับ ก็อาจจะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการทำงานของคณะทำงาน ดั่งที่ก่อนหน้านี้ได้มีดราม่าเกิดมาแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นการเลือกเพลงชื่อดังมาเลย ก็ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดีให้กับทุกอย่าง

แต่ในแง่มุมว่าเพลงนี้จะโด่งดังเท่ากับเพลงที่สร้างชื่อให้กับ BNK48 อย่าง เพลงคุ้กกี้เสี่ยงทายไหม? อันนี้ต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับการนำเสนอของทาง BNK48 แล้วล่ะ เนื่องด้วยเพลง Heavy Rotation ไม่ใช่เพลงที่มีเนื้อร้องที่โดดเด่นติดหูและเต้นตามได้ง่ายๆ แบบคุ้กกี้เสี่ยงทาย แต่เป็นเพลงที่มีสไตล์ดนตรีที่สนุก มีเอกลักษณ์ มีความแปลกใหม่ในสไตล์ J-Pop ในยุค 2010 ถามว่าเต้นตามได้ไหม? มันก็ได้ แต่มันไม่ใช่เพลงที่แค่โยกๆ หมุนๆ ตัว ตามจังหวะแบบคุกกี้เสี่ยงทายแล้ว แต่มันต้องใส่แพสชั่นและอารมณ์เข้าไปในเพลงด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เพลงที่เหมาะในการชวนให้แฟนๆ ออกมาเต้นตามกันอย่างแน่นอน

แต่ต้องใช้คำว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่ ดูโชว์ แล้วสนุก มากกว่า

ก็ต้องมารอดูกันว่า งานเปิดตัวเพลงนี้ 26 กรกฎาคม 2563 ที่จะเป็น First Performance ครั้งแรกของเซ็นบัตสึที่ได้รับการโหวตทั้ง 16 คน จะออกมาในรูปแบบไหน แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ การจัดอีเว้นท์ที่มีคนเข้าร่วมเยอะ ดูแล้วน่าจะไม่สามารถจัดได้ ก็อาจจะมีการเปิดตัวก่อนในรูปแบบของ Online Event และค่อยตามมาด้วยการจัดคอนเสิร์ทขอบคุณงานเลือกตั้งในภายหลังเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็ต้องมาลุ้นกันว่าทาง BNK48 Official จะมีประกาศเพิ่มเติมในเรื่องนี้อย่างไร…

ยังไงก็ฝากติดตามและในกำลังใจน้องๆ กับเพลงซิงเกิ้ลใหม่นี้กันด้วยนะ

I want you !
I need you !
I love you !

ดูตัวอย่าง MV ได้แล้ววันนี้

ด้วยผลกระทบจากโรคติดเชื้อ Covid-19 ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ ซึ่งตอนนี้ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังลามไปยังทั่วโลก และยิ่งสำหรับประเทศเพื่อนบ้านเรา ที่ถือได้ว่าเป็นพันธมิตรสำคัญสำหรับวงการไอดอลอย่าง ประเทศญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันก็ประสบภาวะวิกฤตมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่ออีเว้นท์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในไทยเช่นเดียวกัน รวมไปถึงอีเว้นท์ไอดอล ที่ถือเป็นอีเว้นท์ที่มีการรวมกลุ่มกันของบรรดาแฟนคลับ และศิลปิน ซึ่งตอนนี้หลายอีเว้นท์ก็ได้ประกาศยกเลิก และเลื่อนการจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนดกันบ้างแล้ว ทางเราจึงได้รวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับผลประทบต่างๆ ของ Covid-19 กับอีเว้นท์ไอดอลในไทยที่กำลังจะจัดในเร็วๆ นี้มาให้ได้รับทราบกัน เผื่อแฟนคลับท่านไหนยังไม่รู้ ไปดูกันเลย

อีเว้นท์ของไอดอลวง BNK48 และ CGM48

อีเว้นท์สำคัญของไอดอล 48 Group ประจำประเทศไทย ทั้ง BNK48 ที่กำลังจะมีงานจับมือครั้งแรกประจำซิงเกิ้ล High Tension และงานจับมือครั้งแรกของวงไอดอลน้องสาว CGM48 ที่จะเป็นงานจับมือครั้งแรกของน้องๆ CGM48 เช่นกัน ที่จะจัดขึ้นที่เชียงใหม่ในเดือนมีนาคมนี้ ก็ได้มีการประกาศ ยกเลิก ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ได้มีการประกาศว่าจะมีการประกาศวิธีการ และเงื่อนไขการใช้บัตรอีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคม (ของ BNK48) และวันที่ 16 มีนาคม (ของ CGM48)

โดยการนี้หากคาดเดาจากสถานการณ์ที่ยังไม่แน่ชัดของเชื้อที่กำลังระบาดว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ก็เป็นไปได้ที่เราจะไม่มีงานจับมือในเดือนมีนาคมนี้ แต่เนื่องจากว่าในเดือนเมษายนนั้น เป็นเดือนที่ไม่ได้มีงานจับมืออยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการแทรกงานจับมือเข้าไปในช่วงต้นเดือน หรือปลายเดือนเมษายน หากสถานการณ์ของไวรัสในประเทศไทยคลี่คลายลงไปได้ แต่หากไม่มีความแน่นอน ก็อาจจะมีการประกาศให้สามารถนำบัตรจับมือของเดือนมีนาคม ไปใช้ในวันใดก็ได้ ในรอบจับมือเดือน พ.ค และ มิ.ย แทน

สำหรับมาตรการของวง BNK48 ในงานจับมือเมื่อเดือน ก.พ ที่ผ่านมา ก็คือการขอความร่วมมือให้แฟนคลับทุกคนที่จะเข้าไปจับมือกับน้องๆ จะต้องใส่แมสตลอด รวมไปถึงน้องๆ เองก็ใส่ด้วย และมีเจลล้างมือให้บริการในทุกเลน รวมไปถึงการยกเลิกกิจกรรม 1-Shot ที่ถือได้ว่าเป็นการละลายบัตรได้ดีอีกด้วย

และอีกกิจกรรมสำคัญสุดๆ ของวง อย่างงานประกาศผลเลือกตั้ง ครั้งที่ 2 ที่มีการลงตารางไว้เป็นวันที่ 22 มีนาคม ก็ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะงดการจัดคอนเสิร์ทในรอบเช้าเหมือนในปีก่อน และในการประกาศผลจะจัดในรูปแบบปิด ที่ไม่ให้แฟนคลับเข้าไปชม แต่จะมีให้ชมผ่านทาง Online แทน และหากสถานการณ์ดีขึ้นก็อาจจะมีการจำหน่ายตั๋วในจำนวนจำกัด ซึ่งคาดว่าอาจจะใช้สถานที่ที่สามารถเตรียมการได้ง่ายอย่างที่ BNK Campus ก็เป็นได้

ประกาศเนื่องด้วยสถานการณ์ของเชื้อ Covid-19 ในปัจจุบัน ที่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันและหลีกเลี่ยงโอกาสเสี่ยง ทางเราจึงตัดสินใจที่จะไม่จัดงานคอนเสิร์ตในช่วงเช้าของวันที่ 22 มีนาคมนี้ แต่สำหรับงานประกาศผล BNK48 9th Single Senbatsu General Election ในช่วงเย็น จะยังมีการจัดตามกำหนดการเดิม แต่จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นการจัดในสถานที่ปิด และจะทำการถ่ายทอดสดงานประกาศผล BNK48 9th Single Senbatsu General Election ผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง (จะมีการแจ้งช่องทางรับชมให้ทราบในภายหลัง)ทั้งนี้ หากเมื่อใกล้ถึงวันงาน แล้วสถานการณ์การควบคุมโรคยังเป็นไปได้ด้วยดี หรือมีแนวโน้มที่ลดลง และผ่านการเห็นชอบจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค ทางเราอาจจะมีการเปิดขายบัตรสำหรับงานประกาศผลในจำนวนที่จำกัดและสำหรับงาน BNK48 8th Single High Tension Handshake ในวันที่ 7-8 มีนาคม 2563 นี้ หากทางกระทรวงสาธารณสุขมีการประกาศยกระดับความรุนแรง ทางเราอาจมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนงานออกไป จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ขอให้ทุกท่านกรุณารอติดตามประกาศอีกครั้ง ทางเราจะพยายามแจ้งสถานการณ์ให้ทุกท่านทราบโดยเร็วที่สุดจึงเรียนมาเพื่อทราบและหวังว่าจะได้รับความเข้าใจจากทุกท่าน

https://www.facebook.com/bnk48official/posts/2651873278273247

ซึ่งทั้งนี้หากเป็นอย่างที่ทาง BNK48 ประกาศ ก็คาดว่างานเลือกตั้งในปีนี้น่าจะดูกร่อยๆ น่าดู เพราะไม่สามารถติดตามเชียร์และลุ้นผลอันดับร่วมไปกับน้องแบบสดๆ ได้

อีเว้นท์ของค่าย Siamdol

ค่ายไอดอล Siamdol ที่มีไอดอลในสังกัดทั้ง Siam Dream / AMERYU / Love Letter / Sumomo ที่ปกติจะมีการจัดคอนเสิร์ท One Man Live ร่วมกับทางไอดอลญี่ปุ่นอยู่เสมอ ก็ได้รับผลกระทบจากไวรัส Covid-19 ไปด้วยเต็มๆ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถูกยกระดับการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางระหว่าง ไทย-ญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ถูกเฝ้าระวังอย่างมาก ทำให้งาน Siamdol Festival 2020 ที่เป็นงานครบรอบ 3 ปี ของค่าย Siam Dol ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 มีนาคม ถูกยกเลิกและเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยในตอนแรกได้มีการประกาศออกมาก่อนว่าวงไอดอลบางวง หรือน้องๆ ไอดอลญี่ปุ่นบางคน อาจจะไม่ได้บินมาร่วมงาน แต่เมื่อสถานการณ์ไวรัสในญี่ปุ่นรุนแรงมากขึ้น จนทางวงญี่ปุ่นที่จะมาร่วมงานทุกวงได้ตัดสินใจประกาศยกเลิกการเดินทางมาร่วมงานที่ประเทศไทย ทำให้ทาง Siamdol ได้ตัดสินใจประกาศยกเลิกงาน และเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด

ขนาดงานใหญ่ประจำค่ายยังเลื่อน งาน One Man Live ที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม ก็ได้ถูกเลื่อนไปด้วยเช่นกัน ทำให้ในเดือนนี้ จะไม่มี Event One Man Live ของทางค่าย Siamdol เลย

สำหรับแนวทางก็คาดว่า จะต้องรอให้สถานการณ์ไวรัสคลี่คลายลงก่อน ทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น เพราะค่าย Siamdol ก็เป็นอีกค่ายนึงที่ทำงานร่วมกันกับทางญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ผลกระทบที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น ก็ส่งผลต่อไอดอลญี่ปุ่นที่ต้องเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งหากสถานการณ๋ระหว่างทั้งสองประเทศยังไม่คลี่คลาย การเดินทางไม่สะดวก ทางญี่ปุ่นก็คงมองว่าไม่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยดีกว่า ก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คิดกว่าที่จะสามารถกลับมาจัดได้แน่นอน

สำหรับวง Sumomo ที่มีการใช้บัตร Cheki แบบเก็บไว้ใช้รอบหน้าได้ ก็ได้ออกแถลงการณ์เพื่อต่ออายุการใช้งานให้กับบัตรเชกิที่แฟนคลับได้ซื้อเอาไว้ รวมไปถึงสามารถนำไปเปลี่ยนเป็นบัตรใหม่ได้ ซึ่งก็ช่วยสร้างความสบายใจให้กับแฟนคลับที่ได้ซื้อบัตรเชกิเอาไว้ แต่ยังใช้ไม่หมดว่า จะสามารถนำบัตรมาใช้ได้อย่างแน่นอน

งานเปิดตัว (Debut) ของไอดอล

งานเปิดตัวของวงไอดอลหลายๆ วงที่วางแผนว่าจะจัดงานเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม ก็ได้ประกาศยกเลิกไปบ้างแล้ว เช่นของสามสาววง Tossagirl ที่มีกำหนดจะจัดในวันที่ 1 มีนาคม ก็ได้เลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด

หรือจะเป็นวง Pretzelle ที่เคยประกาศว่าจะมีการจัดงาน Debut ของวงในช่วงเดือนมีนาคม ก็อาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน ทั้งนี้ก็ต้องรอฟังประกาศจากทางเพจ Official ของวงอีกครั้ง

งานใหญ่สิ้นเดือน ?

อีกหนึ่งงานใหญ่ ที่จัดโดย GYu Creative (เจ้าของเดียวกับ Japan Expo) ที่จะมีการจัดงาน Thai-Japan Anime-Music ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ก็ได้ประกาศยกเลิกการจัดงานล่วงหน้าถึง 1 เดือนเต็ม ซึ่งงานนี้แน่นอนว่าจะมีทั้งศิลปินไทย-ญี่ปุ่น เข้าร่วมงานอย่างมากมาย และด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย จึงมีการยกเลิกและเลื่อนงานออกไปก่อน โดยยังไม่ได้มีการกำหนดเช่นกัน ว่าจะจัดงานอีกครั้งเมื่อไหร่ ก็ต้องรอติดตามข่าวสารจากทางเพจอีกที

งานที่จัดอยู่กับมาตรการควบคุมดูแล

งาน Cat Foodival ที่จัดโดย Cat Radio โดยก่อนหน้าได้แจ้งประกาศย้ายสถานที่มาจัดยัง ARL มักกะสัน ก็ได้ประกาศแจ้งผู้ซื้อบัตรทาง SMS ว่าประตูเปิดเวลา 12.00 น. และได้มีการแจ้งว่าจะมีมาตรการดูแลเรื่องต่างๆ ทั้งการวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน หรือการสวมหน้ากากอนามัยเอย ซึ่งคาดว่างานนี้น่าจะสามารถยังจัดได้ตามกำหนดการเดิม โดยไม่มีการเลื่อนใดๆ เพราะงานนี้เป็นงานที่รวมศิลปินไทยมากมาย หากต้องมีการเลื่อนก็จะกระทบตารางงานของศิลปินในหลายๆ วง

งานที่ยังไม่ประกาศแน่ชัด

งาน IDOL Connect #เล่นอะไรกัน ที่จะจัดขึ้นที่ Lido ในช่วงสิ้นเดือน และมีการจำหน่ายตั๋วไปพอสมควรแล้ว ก็เป็นอีกงานที่ยังไม่ได้ประกาศเพิ่มเติมใดๆ สำหรับมาตรการในส่วนนี้ แต่ก็คาดว่าจะไม่ยกเลิกเช่นกัน แต่คงจะมีมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่นกันวัดไข้ หรือการขอความร่วมมือเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยในกิจกรรมต่างๆ ก็น่าจะสามารถทำให้งานยังสามารถจัดต่อไปได้อยู่

ส่วนงาน Maruya #30 ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่จะต้องลุ้นกันว่าจะยกเลิกไหม เนื่องจากจัดอยู่ในพื้นที่สถานศึกษา และในงานโดยปกติแล้วก็มีกิจกรรมของชาวคอสเพย์ ซึ่งรวมตัวกันเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ก็อาจจะต้องรอดูประกาศอย่างใกล้ชิดอีกที ซึ่งงานนี้หากยกเลิกก็คงต้องรอไปอีก 3 เดือนเลย กว่าจะจัดใหม่อีกครั้ง

สรุป….. จากการคาดการณ์ ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ อีเว้นท์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับไอดอล ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีผู้คนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก หากเป็นอีเว้นท์ที่ต้องมีการทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะยกเลิกในทันที แต่ถ้าเป็นกิจกรรมในไทยก็อาจจะต้องมีมาตรการเข้มงวดเพื่อที่จะสามารถจัดงานต่อไปได้ แน่นอนว่าในบางงานการยกเลิกไปเลยก็อาจจะส่งผลกระทบต่อหลายๆ ฝ่าย ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้นไปอีก เช่นอีเว้นท์ที่ขายบัตรไปแล้ว หากยกเลิกหรือเลื่อน จะต้องมีการชดเชยอย่างไรให้กับผู้ที่ซื้อตั๋วไปแล้ว หรือกิจกรรมที่ไม่สามารถหาตารางใหม่เพื่อลงได้ก็อาจจะถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อดูสถานการณ์กันอีกที ทาง IDOLTH ก็ได้แต่หวังว่าสถานการณ์เรื่องไวรัว Covid-19 ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกจะสามารถคลี่คลายโดยเร็ว…. เพราะว่าเรา ก็อยากให้มีอีเว้นท์ต่างๆ ของไอดอลจัดได้ตามปกติ และสนุกสนานเช่นที่ผ่านมา

สำหรับงานที่ยังสามารถไปหาน้องๆ ไอดอลได้ ก็ขอความกรุณาแฟนๆ ทุกท่านปฏิบัติตามแนวทางของผู้จัดงานอย่างเคร่งครัดด้วยนะครับ…

เซฟตัวท่านเองแล้ว และช่วยเซฟน้องๆ ไอดอลกันด้วยครับ

วันที่ 10 ก.พ. ทาง BNK48 และ CGM48 ได้มีการเปิดตัวโปสเตอร์เลือกตั้งในปีนี้ แต่ใบที่มีคนพูดถึงมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นของ จูเน่ BNK48 (เพลินพิชญา โกมลารชุน) ที่ออกแบบในลักษณะนำคำพูดที่ตัวจูเน่ เองถูกบูลลี่ มาเขียนบนใบหน้า ภายใต้รอยยิ้มที่ดูมีความสุข แต่มีแววตาที่แสนเศร้า 

สำหรับยอดแชร์ในเฟสบุ๊คถือได้ว่าเยอะที่สุดสำหรับโปรเตอร์เลือกตั้งเลยทีเดียว กว่า 4300 แชร์ และ 900 คอมเมนต์ อีกทั้งในทวิตเตอร์มียอดรีทวีตกว่า 40000 ครั้งเลยทีเดียว (อัพเดทข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 ก.พ.)

คำเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น สวยไร้สมอง, มั่นหน้า, ตอแหล, เฟค, น่าหมั่นไส้, หยิ่ง, แรด, ปลอม เป็นคำที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งควรได้รับจริงๆรึเปล่า เพียงเพราะเราตัดสินเขาจากภายนอก ทั้งๆที่ไม่ได้มาสัมผัสเอง

อีกทั้งยังมี คำจำพวก เกลือ, เด็กดัน, ไม่รักวง, ไม่พยายาม เป็นคำที่จูเน่ได้รับคำสบประมาท และ โดนพูดถึงอยู่ตลอด ในฐานะ BNK48 รวมถึง คำว่า tawaan (ตะวัน) และ ครูพี่ลิน เป็นบทบาทที่จูเน่ได้รับในฐานะนักแสดง ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันตั้งแต่ยังไม่เห็นผลงานเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ จูเน่ไม่ได้ตอบโต้ หรือ แก้ตัวใดๆ แต่จะพิสูจน์ให้เห็นจากผลงานที่ออกมา ดั่งที่ทุกคนได้เห็น อย่างบท “ตะวัน” ในซีรีส์ “ One Year 365 วันบ้านฉันบ้านเธอ” ที่ทุกคนต่างพูดกันว่า การแสดงในบทนี้ ดีมาก อินมาก ถึงขั้น พี่ปิง ( เกรียงไกร วชิรธรรมพร ) โปรดิวเซอร์ของซีรีส์นี้ เรียกการแสดงของจูเน่ว่า “พรสวรรค์” เลยทีเดียว

หลังจากซีรีส์จบ อย่างที่ทุกคนทราบกันดี น้องได้มีผลงานที่จะได้รับชมกันต่อ คือ “ฉลาดเกมส์โกง เดอะซีรีส์” จะเข้าฉายได้เดือนสิงหาคมนี้ หลายคำสบประมาท กลายเป็นคำชื่นชม ว่าระดับการแสดงของน้องนั้น รับมือกับบทครูพี่ลิน ไหวแน่นอน

สำหรับช่วงต้นปีที่ผ่านมาหากสังเกต จูเน่นั้นได้มีทำการตัดผมเปลี่ยนลุคเป็นผมสั้น ซึ่งจากที่มีกระแสข่าวมา อาจจะได้รับบทบาทในการแสดงใหม่ๆที่จะมีขึ้นในอนาคต หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงลุคเพื่อต้อนรับ ซิงเกิลใหม่ของ BNK48 เพราะโดยปกติแล้วตัวเมมเบอร์จะมีการเปลี่ยนสไตล์ในทุกซิงเกิล

วันนี้เองได้มีการปล่อยคลิปวีดีโอโปรโมทเลือกตั้งออกมา สำหรับของจูเน่นั้นก็เป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เพราะ จูเน่นั้นไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวทั้งวีดีโอ แต่เป็นการลบคำพูดต่างๆออกจากหน้า เปรียบเสมือนการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเวทีพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ในการลบคำสบประมาทเหล่านั้น ออกไปจากตัวน้องเอง ถือว่าเป็นคลิปโปรโมทอีกตัวที่อิมแพคจริงๆ ข้อความที่สื่อออกมาโดยตรงถึงแม้จะไม่พูดอะไรก็ตาม

จูเน่นั้น อาจไม่ใช่คนที่โดนบูลลี่ที่สุด  หรือ น่าสงสารที่สุด เพราะด้วยบริบทของไอดอลเอง ทำให้จูเน่ได้แต่ยิ้มรับ เสียงต่อว่าด่าทอ คำบูลลี่ต่างๆ ถึงแม้จะเศร้าแค่ไหนก็ตาม น้องเคยพูดเสมอว่าอยากเปลี่ยนโลก อยากทำอะไรเพื่อสังคม ผู้เขียนจึงคิดว่า ตัวน้องนั้นอยากเป็นกระบอกเสียง เป็นตัวแทน ให้คนในวง, ไอดอล, บุคคลสาธารณะ หรือ พวกเราทุกคน ที่เป็นเหยื่อของการบูลลี่ ให้ทุกคนได้ฉุกคิดว่า คำพูดของเรา คนพูดไม่ได้คิดอะไร แค่พูดนั้นก็จบไป แต่สำหรับผู้รับฟังอาจเป็นรอยแผลในชีวิตเขาเลยก็ได้

มีความเห็นใจกันสักนิด เลิกตัดสินคนกันสักหน่อย

สุดท้ายก็ขอฝาก โปรเจค “ Vote for Juné ” โปรเจคที่สนับสนุน จูเน่ใน General Election ครั้งนี้ เพื่อให้จูเน่ได้พิสูจน์ตัวเอง และ ส่งน้องให้ถึงอันดับที่คาดหวังไว้ ฝากน้องคนนี้ด้วยนะครับ

ติดตามได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/voteforjune48
Instagram : https://www.instagram.com/voteforjune48/
Twitter : https://twitter.com/voteforjune48

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องนึงที่น่าติดตามในช่วง 1-2 เดือนนี้เลยก็ว่าได้ กับข่าวการประกาศจบการศึกษาของสมาชิก BNK48 ทั้ง 3 คน แนทเธอรีน-ดุสิตา กิติสาระกุลชัย , อุ้ม-ณัชชา กฤษฎาสิมะ และ นิ้ง-มนัญญา เกาะจู ที่สองคนแรกได้ประกาศจบการศึกษาไปช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาในเธียเตอร์ และ นิ้ง ที่เพิ่งประกาศจบการศึกษาผ่านไลฟ์บนแอพพลิเคชั่น iAm ท่ามกลางเสียงฮือฮาอย่างหนักของเหล่าแฟนคลับที่ได้ฟังเหตุผลจากนิ้ง ถึงการตัดสินใจจบการศึกษา และออกจากวง BNK48 เพราะไม่ได้รับโอกาสมากพอ ทั้งประเด็นการที่ไม่เคยได้รับเลือกให้ติดเซมบัตสึของซิงเกิ้ลใดๆ ตลอด 8 ซิงเกิ้ล และ 2 อัลบัม ที่ผ่านมา

แถมทั้งนี้ออฟฟิเชี่ยลยังเพิกเฉยต่อการจบการศึกษาของน้องนิ้ง โดยไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการทาง Facebook เหมือนกับกรณีที่เมมเบอร์คนอื่นได้จบการศึกษา ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับแฟนคลับเป็นอย่างมาก ว่าเป็นเรื่องประเด็นความไม่เท่าเทียม หรือติดปัญหาใดๆ จึงไม่ประกาศ จนมีแฟนคลับได้สอบถามเข้าไปทาง Inbox และได้คำตอบเช่นนี้

และอีกหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของอีเว้นท์จบการศึกษาของเมมเบอร์ทั้ง 3 คน ที่ปกติ แล้วจะต้องมีสเตจจบการศึกษา รวมไปถึงพิธีการถอดรูปของตัวเองออกจากหน้าเธียเตอร์ แต่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รูปเมมเบอร์ที่อยู่บริเวณหน้าเธียเตอร์ที่ BNK Campus ก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นรูปโปสเตอร์เลือกตั้งของปีนี้ แน่นอนว่าเมมเบอร์ทั้ง 3 ที่ประกาศจบการศึกษาไปแล้ว ไม่ได้ลงเลือกตั้งในครั้งนี้ ดังนั้นจึงไม่มีรูปของตัวเองอยู่บนกำแพงหน้าเธียเตอร์ และรูปโปสเตอร์เหล่านี้ก็คงไม่ถูกเปลี่ยน จนกว่าจะจบกิจกรรมการเลือกตั้ง แปลว่าพิธีถอดรูปออกหลังสเตจจบการศึกษาจะถูกยกเลิกไปก่อน??

หลังจากถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง ว่าออฟฟิเชี่ยลไม่มีการแถลงประเด็นใดๆ ถึงเรื่องนี้ รวมไปถึงสเตจจบการศึกษาที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม แต่ในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่จะมีกิจกรรมเลือกตั้งของวงพอดี ในวันนี้ทางจ๊อบซัง ชิไฮนินของวง BNK48 ก็ได้โพสข้อความชี้แจงแถลงผ่านทางเพจ BNK48Shihainin โดยมีใจความสำคัญดังนี้

ขออนุญาตชี้แจงประเด็นเรื่องการจบการศึกษาของ อุ้ม แนทเธอรีน และ นิ้ง นะครับ

โดยปกติแล้ว หากมีสมาชิกต้องการจบการศึกษา จะต้องมีการเจรจาเรื่องการบอกเลิกสัญญา และข้อตกลงปฏิบัติหลังจากจบการศึกษาออกไป ซึ่งขอแบ่งประเด็นของการจบการศึกษาของน้องทั้ง 3 คนดังนี้ ครับ

ในกรณีของอุ้ม และแนทเธอรีน ทางเราเห็นชอบให้จบการศึกษาได้ โดยมีเงื่อนไข ต้องเข้ามาเจรจาต่อหลังการประกาศจบการศึกษา โดยจะต้องหาข้อตกลงร่วมกันให้เรียบร้อย จึงจะสามารถสิ้นสุดสัญญาได้ แต่เนื่องจากการเจรจายังไม่สิ้นสุด ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน จึงยังไม่มีผลยกเลิก ซึ่งมีผลกระทบในการวางแผนกิจกรรมอื่น ๆ ในการจบการศึกษาที่เหลือ

ในกรณีของนิ้ง เป็นการประกาศจบการศึกษาโดยยังไม่ได้รับความเห็นชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้รับแจ้งจากทางน้องและผู้ปกครองว่าต้องการจบการศึกษา แต่ทางเราพบว่าน้องยังมีงานค้างอยู่ทั้งงาน ทั้งในส่วนของงาน Presenter และงานละคร และหากจบการศึกษาไปตอนนี้อาจทำให้บริษัทฯ และตัวน้องเองได้รับความเสียหาย ทางเราจึงได้ขอให้เลื่อนการจบการศึกษาของนิ้งผ่านทางผู้ปกครอง และเสนอให้หยุดพักผ่อนชั่วคราวแทนเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งผม และ ผู้ปกครองยังไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ ผมจึงได้ขอให้น้องเลื่อนการประกาศจบการศึกษาออกไปก่อน จนกว่าสัญญาและข้อตกลงทั้งหมดจะสมบูรณ์

ด้วยเหตุผลข้างต้น ทางเราจึงยังไม่สามารถมีข้อสรุปในส่วนของกิจกรรมจบการศึกษาของทั้งสามคนได้ จนกว่าจะตกลงกันเรียบร้อยครับ ส่วนรายละเอียดในเบื้องลึกกว่านี้ ทางผมขออนุญาตที่จะให้เป็นเรื่องภายในนะครับ

ขอบคุณครับ

ทั้งนี้จากคำชี้แจงที่จ็อบซังได้แจ้ง ทำให้ได้ข้อสรุปว่า การจบการศึกษาของ แนท และ อุ้ม ผ่านการเห็นชอบแล้ว แต่จะต้องเข้ามาเคลียร์เงื่อนไขต่างๆ หลังจากจบการศึกษาไป โดยถ้าอิงจากโมเดลของเมมเบอร์คนอืนๆ ที่จบการศึกษาไปแล้ว ก็อาจจะมีข้อตกลงเรื่องการติดสัญญา 1 ปี ไม่ให้ไปเข้าสังกัดใดๆ ในช่วงเวลาหลังจบการศึกษาไปแล้ว รวมไปถึงการห้ามพูดถึงวงไม่ว่าทางไหนก็ตาม รวมไปถึงเรื่องสเตจจบการศึกษาที่ต้องรอดูความชัดเจนกันอีกทีว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ในส่วนของนิ้งที่จากคำชี้แจงทำให้เห็นได้ว่านิ้งยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวง ในส่วนของงาน Presenter ที่ไม่แน่ชัดว่าของงานร่วมกับค่ายไหน รวมไปถึงงานละคร ที่ยังไม่มีข้อมูลเช่นเดียวกันว่านิ้งได้เล่นละครเรื่องอะไร แต่เคสนี้จะโดนปรับเปลี่ยนเป็นการพักงาน 2 เดือนแทน โดยที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจบการศึกษา ซึ่งคงต้องรอดูความชัดเจนกันต่อไป

แต่วงการไอดอลก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะในปี 2020 นี้เอง ก็จะมีไอดอลหน้าใหม่อีกมากมายหลายวง ที่จะเข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการไอดอลได้คึกคักเข้าไปอีก IDOLTH ก็เลยอยากเอาไอดอลหน้าใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว มาให้เพื่อนๆ ได้ทำความรู้จักกันแบบคร่าวๆ ก่อน ถ้าพร้อมจะรู้จักน้องๆ แล้วก็ไปดูกันเล้ย

1. Granita กรานิต้า

เริ่มกันที่วงแรก กับวงที่มีการพูดถึงในวงการไอดอลอย่างมาก กับ 4 สาว “กรานิต้า” น้องลูกปัด (สีชมพู) , น้องต๊อกแต๊ก (สีบลู) , น้องไอริ (สีแดง) , น้องเฟิร์น (สีส้ม) ที่เปิดตัวมาด้วยคอนเซ็ปที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครแน่นอน กับการเป็นไอดอลสายกราเวียร์ ที่จะมามัดใจแฟนๆ ด้วยความหวานๆ เซ็กซี่ๆ ซึ่งนอกจากคอลเล็กชั่นชุดว่ายน้ำของเมมเบอร์ที่ปล่อยออกมาแล้ว ก็ยังมีชุดสาวออฟฟิศสุดเท่ มาให้แฟนๆ ได้กรี๊ดกันอีกด้วย

สิ้นเดือนนี้ พบกับ 4 สาวกรานิต้าตัวเป็นๆ ครั้งแรกได้ที่งาน Japan Expo Thailand 2020 ที่เซ็นทรัลเวิร์ด และ IDOL Expo #3 ที่ไบเทค บางนา

Facebook : https://www.facebook.com/Granita-105021560998939/

2. HaniChuu ฮานิชู

4 สาววงไอดองน้องใหม่อีกวง “ฮานิชู” น้องมิรัน , น้องลิน , น้องพอลลีน , น้องนาอิน กับคอนเซ็ปน่ารักๆ แบบผึ้งน้อย กับชื่อวงที่ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ฮันนี่” ที่แปลว่าน้ำผึ้ง (หรือแปลว่าที่รักกันแน่นะ?)

สิ้นเดือนนี้ พบกับ 4 สาว ฮานิชู ได้ที่งาน IDOL Expo #3 ที่ไบเทค บางนา

Facebook : https://www.facebook.com/HaniChuuOfficial/

3. Saizenkanri Syndicate (Saisyn) ไซซิน

3 สาวไอดอล ภายใต้สังกัดค่ายเดียวกับ Zenkiri กับชื่อเต็มที่อ่านยากเช่นเคย แต่เรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “ไซซิน” คาโอริ , อาซุสะ , ซีล เปิดตัวครั้งแรกกันไปแล้วที่งาน End​ of​ the Line Vol.1 แถมพวกเธอยังมีผลงานเพลงซิงเกิ้ลแรก ออกมาให้ได้ฟังกันแล้วด้วย

ฟังเพลงของพวกเธอได้ที่นี่ https://soundcloud.com/saizenkanri-syndicate/tenkiame-jp-ver

Facebook : https://www.facebook.com/saisyn.official/

4. SS88 (Super Stellar 88)

วงไอดอล 5 สาว ที่มีพลังในการทำลายกาแล็กซี่ได้ SS88 ซาณซาณ , เจี๊ยบ , หมิง , เจน , เบล

โดยทั้ง 5 สาว ก็เตรียมมาพบกับแฟนๆ ในงาน IDOL Expo #3 เช่นกัน

Facebook : https://www.facebook.com/SS-88-102344524506651/

5. A’T-Miss

อีกหนึ่งวงไอดอลน้องใหม่ ที่ในตอนนี้หน้าตาของสมาชิกยังเป็นปริศนาอยู่ นามิ , หมี่หยก , ฟองฟ้า , จ๊ะจ๋า , โรส , พิชชา , มิ้วมิว โดยตอนนี้เมมเบอร์ก็ได้มีการโพสเค้าท์ดาวน์นับถอยหลังอยู่ คาดว่าเราจะได้มีโอกาสเจอน้องๆ ในช่วงสิ้นเดือนนี้แน่ๆ ยังไงก็รอติดตามชมกันดู

Facebook : https://www.facebook.com/atmissofficial/

6. Florizta ฟลอริสต้า

ไอดอล 5 สาว ที่มาในคอนเซ็ปร้านดอกไม้ที่จะรวบรวมดอกไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปเข้ามาผสมผสานกันให้ลงตัวอยู่ในช่อเดียวกัน และน้องๆ แต่ละคนก็มีดอกไม้ประจำตัวกันด้วยล่ะ “Florizta” น้องอ้อย (ทานตะวัน) , น้องมียู (ดอกเยอบีร่า) , น้องเฟิร์น (ดอกแดนดิไลออน) , น้องมอส (ซากุระ) , น้องใบไผ่ (ดอกคัตเตอร์)

และตอนนี้น้องๆ Florizta ก็ได้ออกผลงานซิงเกิ้ลแรกพร้อม MV มาให้ได้ชมกันแล้วในชื่อเพลงว่า My Flower (ดอกไม้ของฉัน)

Florizta – My Flower (ดอกไม้ของฉัน) [ Official MV ] /hJU0OITkcwQ

7. LaBis ลาบิส

วงไอดอลที่เป็นทั้งวงไอดอลและวงดนตรี กับวงไอดอลภายใต้สังกัด LoveiS Entertaiment ที่มาพร้อม 5 สาว Labis น้องบีบี๋ (ร้องนำ) , น้องบุ๊ค (เบส) , น้องพิมมี่ (กีต้าร์) , น้องเดียร์ (กลอง) , น้องนินิว (ฟลูต) โดยน้องๆ ทั้ง 5 คน จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มกราคา นี้ ส่วนจะไปขึ้นงานไหน ก็รอติดตามชมกันได้เลย

Facebook : https://www.facebook.com/wearelabis

8. O2 โอทู

ดูโอไอดอลน้องใหม่ ภายใต้สังกัด ReSweet Music Label กับ O2 แอนนี่ ( อรรฆพร สร้อยสุข ) และ ฟินนี่ ( ศศิกานต์ สร้อยสุข ) สองสาวพี่น้องที่จะมาสร้างสรรค์เพลงร่วมกัน โดยตอนนี้ก็ได้มีชื่อซิงเกิ้ลแรกออกมาแล้วในชื่อว่า Not My O2 (น็อต มาย โอ ทู)

Facebook : https://www.facebook.com/DuoO2official

9. Bestie เบสตี้

ไอดอล 3 สาว Bestie พิวา , โมน่า , แครอท กลุ่มเพื่อนซี้สามคน อดีตไอดอลกรุ๊บสายสตรองจากวงไอดอล BLACK DOLLS ที่มารวมตัวกันใหม่ เป็นวงใหม่ในชื่อ “เบสตี้”

ตอนนี้ก็ได้มีเพลงซิงเกิ้ลแรกของวงออกมาแล้วในเพลงที่มีชื่อว่า MiRaCle (ปาฏิหาริย์วันคริสมาส) ที่สามารถรับฟังได้ทาง Joox , Spotify , Apple Music แล้ว

Facebook : https://www.facebook.com/bestiecutie/

10. Sugar Piu ซูก้า ปิ้ว

วงไอดอลน้องใหม่จากค่าย SweetSound Entertainment ที่เคยทำวง Blissful มาก่อน ได้เปิดรับสมัครเด็กสาวที่มีความฝัน มาตั้งวงไอดอลใหม่ในชื่อว่า Sugar Piu ฟามฟาร์ม , ข้าวฟ่าง , เรเน , นานะ , เดียร์ , พิมพ์ , เบ็นซ์ , จินนี่ แปดสาวที่เป็นตัวแทนของขนมหวานต่างๆ

โดยทั้ง 8 สาว ก็เตรียมมาพบกับแฟนๆ ในงาน IDOL Expo #3 สิ้นเดือนนี้ ที่ไบเทค บางนา

Facebook : https://www.facebook.com/SugarPiuOfficial/

11. RedSpin เรดสปิน

วงไอดอลเกิร์ลกรุ๊บมาแรง ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานกับ RedSpin เปเป้ , พิมมี่ , ไดอารี่ , ฟ้าพราว , ปอเช่ , แพร กับ 6 สาวเสียงดี เต้นเก่ง ซึ่งแต่เดิมเป็นเมมเบอร์ฝึกหัดในนาม BHX ที่มีผลงานเพลงดังๆ ใน YouTube มากมาย เช่นเพลง แฟนในอนาคต และได้มารวมตัวกันตั้งวง RedSpin ขึ้นมา แถมตอนนี้ก็มีเพลงซิงเกิ้ลแรกเป็นของตัวเองแล้วในชื่อเพลง Fan Zone ที่ได้ ก๊อป โปสการ์ด และ เอฟู นักแต่งเพลงชื่อดัง ที่เคยแต่งเพลงดังๆ ให้กับ Kamikaze มากมาย

และตอนนี้เพลง Fan Zone ก็เข้าสู่ 1,000,000 วิว เข้าไปแล้ว

Facebook : https://www.facebook.com/RedSpin.brickhouse/

12. WISH23 วิช 23

วงไอดอลจากภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ กับเมมเบอร์กว่า 24 คน ในคอนเซ็ปกลุ่มเด็กสาวที่มีความปรารถนา ไม่ละทิ้งฝัน ที่พร้อมจะติดปีกบินไปสู่ท้องฟ้าที่สวยงาม ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วก็ได้มีงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วที่เชียงใหม่ ซึ่งสำหรับชาวกรุงเทพจะได้เจอกับน้องๆ เมื่อไหร่ ก็ต้องรอลุ้นกันดูอีกที ยังไงก็เป็นกำลังใจให้น้องๆ กันด้วยน้า

Facebook : https://www.facebook.com/wish23official/

13. LUV SEASON เลิฟ ซีซั่น

กลุ่มไอดอล 5 สาว จากจังหวัดเชียงใหม่อีก 1 วง Luv Season น้องใบตอง , น้องพลอยกิ , น้องคริสตัล , น้องโฟน , น้องทราย ซึ่งก็ได้ทำการเปิดตัวที่จังหวัดเชียงใหม่กันไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีเพลงซิงเกิ้ลแรก “จนกว่าจะถึงวันนั้น” ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกันแล้ว

Facebook : https://www.facebook.com/support.luvseason/

14. Daruma ดารุมะ

วงน้องสาวของวงไอดอลสายร็อค AKIRA-KURO เคย์ , คิตสุนะ , สลีฟ , จีไนท์ , คานาโกะ , เบบี้พี 6 สาว ไอดอลที่ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ยังไม่เปิดเผยหน้า แต่ได้ชื่อว่าเป็นวงน้องสาวของวง AKIRA-KURO ก็บอกได้เลยว่า มันส์แน่นอน เบื้องต้นทางวงบอกมาว่าเป็นวงแนว ELECTRONiC ROCK ก็รอติดตามกันได้เลย มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ ก็ต้องรอติดตามกันที่เพจของดารุมะเลย ว่าจะมีอีเว้นท์เปิดตัวที่ไหน

Facebook : https://www.facebook.com/darumaofficial/

15. ASTER แอสเตอร์

วงไอดอลน้องใหม่ภายใต้สังกัด Merry go sound ค่ายเดียวกับไอดอลวง Daisy Daisy กับ 9 สาว Aster ไอซ์ , ชาชา , ใบหยก , กัน , ลูกเกด , โกลัน , มิ้ง , แซนดี้ , เดียร์ ที่เพิ่งเปิดตัวไปแหมบๆ ใน งานตึกตัก รักหมดใจ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) และซิงเกิ้ลแระ ร้ายนะคะ (แต่รักหมดใจ) ที่กำลังจะถ่ายทำ MV กันในเร็วๆ นี้

ส่วนอีเว้นท์ที่น้องๆ จะไปออก ก็สามารถไปติดตามได้ที่เพจของน้องๆ เลย

Facebook : https://www.facebook.com/asteridolth/

16. SoulSistar โซลซิสต้าร์

ดูโอ้สาวสองคน “สองขยุ้ม อาจุมม่า” กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในชื่อ SoulSistar ลูกไม้และบู อดีตสมาชิกวง Lemonade ที่ได้ยุบวงไปแล้ว กลับมาใหม่อีกครั้ง พร้อมเพลงใหม่เพราะๆ “ใช่มั้ยอ่ะ..เราอ่ะ”

Facebook : https://www.facebook.com/soulsistar.official

17. After Sunset อาฟเตอร์ซันเซ็ต

วงไอดอลน้องใหม่ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ “ความบันเทิงที่จะเกิดขึ้นหลังพระอาทิตย์ตก” ในหลากหลายรูปเเบบเเตกต่างกันไปตามคาเเรคเตอร์ของสมาชิกเเต่ละคน มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ Yoko(โยโกะ), Nae(นาเอะ), Tsuki(ทสึกิ), Haru(ฮารุ), Momo(โมโมะ)

โดยที่ผ่านมา น้องๆ After Sunset ก็ได้แวะไปแจกใบปลิวทั้งที่งาน END of the line” Vol.01 และ BKK Meltdown ด้วย ก็ต้องรอดูกันว่าน้องๆ จะแวะไปแจกใบปลิว และเดบิ้วท์ที่ไหน

Facebook : https://www.facebook.com/af.sunsetofficial/

18. CGM48 ซีจีเอ็ม โฟร์ตี้เอซ

ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ กับวงไอดอลน้องสาวในประเทศกลุ่มแรกของ BNK48 กับ CGM48 กับสมาชิกกว่า 25 คน ที่มีคาร์แรคเตอร์สุดแสนจะน่ารัก ที่ได้ทั้งชิไฮนินรินะ และแคปออม ที่ย้ายจากวง BNK48 ไปดูแลน้องๆ ถึงเชียงใหม่ โดยตอนนี้น้องๆ ก็ได้ตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อรอกับงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ CGM48 1st Single The Debut ในวันที่ 9 ก.พ นี้ ที่เชียงใหม่ กับการเปิดตัวซิงเกิ้ลแรก “เชียงใหม่ 106”

Facebook : https://www.facebook.com/cgm48official/

19. HatoBito ฮาโตะ บิโตะ

ไอดอลน้องใหม่จากค่าย Space Idol ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลักดันและสนับสนุนน้องๆ ให้ก้าวเดินในเส้นทางบันเทิง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Heartbeat – การเต้นของหัวใจ” ที่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิต พลัง และความรู้สึก

โดยตอนนี้ก็อยู่ในช่วงการสมัครรับออดิชั่นอยู่ จนถึงสิ้นเดือนนี้ และมี Offline Audition ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์

Facebook : https://www.facebook.com/hatobito/

20. Idol Paradise

ช่อง 3 HD (ช่อง33) ขอเปิดประตูแห่งความฝัน เชิญชวนเด็กสาวอายุระหว่าง 12-20 ปี ร่วมสัมผัสปรากฎการณ์พิเศษด้วยการสมัครเข้าคัดเลือกเพื่อค้นหา “ไอดอลสาวรุ่นใหม่” เข้าสู่วงการบันเทิง พร้อมมุ่งสู่เส้นชัย ของการเป็นต้นแบบไอดอลตัวจริง!!!
เตรียมตัวของคุณให้พร้อม เพื่อจะเปล่งประกายในตัวเองออกมา ในรายการ Idol Paradise

งานนี้ช่อง 3 มาเอง กับการสร้างรายการ Reality เพื่อตั้งกลุ่มไอดอลในนามไอดอล พาราไดร์ซ โดยจะมีการเปิดออดิชั่นเร็วๆ นี้ก็เป็นอีกวงที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก

Facebook : https://www.facebook.com/idolparadiseofficial

แน่นอนว่า ที่กล่าวมายังไม่ครบไอดอลทุกวงที่จะเกิดขึ้น และคาดว่าในปี 2020 ก็คงมีไอดอลเพิ่มมากกว่านี้อย่างแน่นอน เพราะยังคงมีทั้งจิกะไอดอลเกิดใหม่มากมายที่กำลังเปิดรับสมัครสมาชิก หรือวงน้องสาวของไอดอลที่มีอยู่แล้วกำลังตั้งวงใหม่ขึ้นมา ยังไงก็อยากให้แฟนๆ สนับสนุนน้องๆ ไอดอลกันต่อไป วงการไอดอลจะได้มีไอดอลดีๆ ที่มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

IDOL EXPO #3

และ 30 ม.ค – 2 ก.พ นี้ก็เตรียมตัวพบกับ งานมหกรรมไอดอล IDOL Expo ครั้งที่ 3 ซึ่งแน่นอนว่าจะมีไอดอลมากกว่า 30 วง ผลัดเปลี่ยนมาขึ้นเวทีและพบปะกับแฟนๆ กันอย่างใกล้ชิด ณ บริเวณด้านหน้าฮอลล์ 98 BITEC บางนา

Japan Expo Thailand 2020

และอีก 1 งาน ที่จัดเต็มทั้งไอดอล ไทย-ญี่ปุ่น กับงาน Japan Expo Thailand 2020 ที่ขนไอดอลกว่า 10 วง ที่จะมาพบปะกับแฟนๆ กันอย่างสุดเหวี่ยง ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

และไอดอลวงไหนที่อยากสนใจให้ IDOLTH สัมภาษณ์ก็ติดต่อเข้ามาได้เลย ทางเรายินดีที่จะเป็นสื่อกลางที่จะช่วยโปรโมทน้องๆ ไอดอลให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพราะเราก็อยากเห็นวงการไอดอลในไทยเติบโตไปในทางที่ดีเช่นกัน ^^

อันดับแรกเลยก็ต้องขอแสดงความยินดีกับเหล่าไอดอลบัณฑิตจบใหม่ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒด้วย ซึ่งในวันนี้ (8 พ.ย) ก็เป็นวันซ้อมรับปริญญาของเหล่าบัณฑิต ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีไอดอลที่กำลังจะจบการศึกษาจาก มศว. เยอะมากเลยทีเดียว

น้องปาย FEVER คณะวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม

น้องสแปม FEVER คณะสังคมศาสตร์

น้องอิ่มเอม The Glass Girls คณะวิทยาศาสตร์ สาขาอัญมณีและเครื่องประดับ

น้องไอริ Zenkiri คณะวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม

เดียร์ ASTER คณะมนุษยศาสตร์

และทาง IDOLTH ก็ได้ส่งทีมงานไปเก็บภาพบรรยากาศความน่ารักของน้องๆ ไอดอลในชุดครุยมาให้ชมกัน แน่นอนนอกจากเหล่าไอดอลที่เข้าซ้อมพิธีรับประราชทานปริญญาบัตรแล้ว ยังมีเหล่าเพื่อนไอดอลมาร่วมถ่ายรูปกับบัณฑิตอีกด้วย เรียกได้ว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นเลยทีเดียว

น้องสแปม FEVER

น้องปาย FEVER ร่วมด้วยน้องบีมบีมที่มาถ่ายรูปด้วย

น้องปาย FEVER

น้องไอริ Zenkiri

น้องไอริ Zenkiri และน้องเบบี้และนาโฮะจาก Daifuku

นาโฮะและเบบี้ Daifuku

เดียร์ ASTER

เดียร์ ASTER และเพื่อนร่วมวง โกรัน รวมไปถึงเพื่อนข้ามวงอย่างโอลีฟและคุณพิม

เพื่อนร่วมวง ASTER ที่มาถ่ายรูปกับเดียร์

น้องเดียร์กับเพื่อนร่วมวง ASTER

อิ่มเอม และเพื่อนๆ จากวง The Glass Girl

หลังจากการเปิดตัวเพลงซิงเกิ้ลใหม่ลำดับที่ 7 “77 ดินแดนแสนวิเศษ” ในงาน 2-Shot ที่ผ่านมา ก็เริ่มสร้างกระแสคึกคักให้กับเหล่าแฟนคลับ BNK48 กันมากมาย โดยเฉพาะแฟนคลับสายมิกซ์ทั้งหลายที่ต่างรู้โดยทั่วกันว่า เพลงนี้จะต้อง “มิกซ์มันส์แน่ๆ” ซึ่งแน่นอนสำหรับแฟนคลับที่ไม่ใช่สายมิกซ์ย่อมสงสัยแน่นอนว่า เพลง 77 ดินแดนแสนวิเศษ มันมีดียังไง แล้วทำไมมันถึงมิกซ์สนุกจนหลายคนถึงกับรอคอย วันนี้เราจะพาไปดูพร้อมๆ กัน

1. ที่มาของเพลง

เพลง 77 ดินแดนแสนวิเศษ นั้น จะมีต้นฉบับมาจากเพลงที่มีชื่อว่า “47 no suteki na machi e” หรือแปลเป็นภาษาไทยตรงตัวได้ว่า 47 เมืองที่แสนวิเศษ ซึ่งเป็นเพลง Original เพลงแรกของ AKB48 Team 8

AKB48 ทีม 8 เป็นโปรเจ็คที่ทาง AKS ต้นสังกัดของวง 48G ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Toyota ในการตั้งทีมไอดอลที่มาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น จนได้สมาชิกเริ่มต้นมาทั้งหมด 47 คน ซึ่งแต่ละคนก็ผ่านการคัดเลือกมาจากแต่ละจังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น ที่มี 47 จังหวัดนั้นเอง

หลังจากได้เปิดตัวเมมเบอร์เป็นครั้งแรกในวันที่ 3 เมษายน 2014 ในเวลาต่อมาไม่ถึง 2 เดือน เมมเบอร์ทีม 8 ทุกคนก็ได้ลงสมัครเลือกตั้งในกิจกรรม AKB48 Sousenkyo 2014 ทันที แน่นอนว่าสมาชิกที่พึ่งเปิดตัว ยังไม่ได้สร้างฐานแฟนคลับใดๆ ผลการเลือกตั้งในปีนั้นจึงไม่มีสมาชิกทีม 8 คนใดติดอันดับการเลือกตั้งเลยแม้แต่คนเดียว ท่ามกลางข่าวลือว่าโปรเจคทีม 8 นั้นจะเป็นโปรเจคระยะสั้นที่อาจจะมีอายุไม่ถึงปี เพราะหากไปได้ไม่ราบรื่น ผู้สนับสนุนหลักอย่าง Toyota ก็คงลอยแพทีม 8 นี้แน่ๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน อากิพีก็ได้แต่งเพลง 47 no Suteki na Machi e ให้เป็นเพลงออริจินัลของทีม 8 เพลงแรก ซึ่งสร้างความดีใจให้กับสมาชิกของทีม 8 เป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นในงานเดินสายต่างๆ ของเมมเบอร์ทีม 8 เพลง “47 no Suteki na Machi e” ก็เป็นเพลงหลักที่ใช้ในการแสดงทุกครั้ง ร่วมกับเพลงอื่นๆ ที่นำเพลงดังๆ ของ AKB48 มาเล่น อาทิเช่น Oogoe Diamond , May be , Kibouteki Refrain รวมไปถึงเพลง Koisuru Fortune Cookie มาแปลงใหม่เป็น Koisuru Juden Puriusu ซึ่งเป็นเพลงที่ Toyota ใช้ในการโปรโมทรถไฮบริดรุ่นใหม่อย่าง Toyota Prius โดยมีเนื้อหาประมาณว่าให้มาลองใช้รถยนต์ไฟฟ้า Toyota Prius กันสิแล้วจะหลงรักนะ….

2. จุดเด่นของเพลง

เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ใช้สมาชิกเซมบัตสึในการแสดงพร้อมกันมากที่สุด เพราะสมาชิกทั้ง 47 คนของทีม 8 ถือว่าเป็นเซมบัตสึของเพลงนี้ แต่ในการเดินสายแสดงตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วญี่ปุ่นก็ขึ้นเพียงแค่ 16 คนเท่านั้น โดยเนื้อหาของเพลง สรุปสั้นๆ คือการพูดถึงการนั่งรถเดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ใน 47 จังหวัดที่แสนวิเศษพร้อมกันกับเธอ ได้ชมทิวทัศน์และใช้เวลาเหล่านั้นร่วมกันกับเธอ เรียกได้ว่าเป็นเพลงรักแบบฉบับไอดอลที่เหมาะสมกับผู้สนับสนุนหลักอย่าง Toyota สุดๆ ไปเลย

นอกจากเนื้อหาที่น่าประทับใจแล้ว จุดเด่นของเพลงยังอยู่ที่เมมเบอร์ทุกคนจะทำการขานชื่อจังหวัดของตัวเองในช่วงบรรเลงตอนท้าย โดยจะเรียงจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นจากเหนือมาจรดใต้ (เริ่มที่ฮอกไกโด จบที่โอกินาว่า) ด้วยจุดเด่นนี้เองถึงกับทำให้โอตะญี่ปุ่นสามารถจำชื่อ 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่นได้จากการฟังเพลงนี้เลยก็มีเยอะเหมือนกันครับ

เนื่องด้วย ทีม 8 เป็นทีมพิเศษของ AKB48 ที่ตั้งขึ้นมาในคอนเซปที่แตกต่างจากไอดอลวง 48G ที่ปกติแล้วจะมีคอนเซปในคำที่คุ้นหูเราอย่างคำว่า “ไอดอลที่เราสามารถไปพบได้” กล่าวคือ สามารถไปชมการแสดงได้ที่เธียเตอร์ สามารถไปเจอที่งานจับมือได้ ซึ่งสามารถไปเจอได้ตามเธียเตอร์ตามหัวเมืองต่างๆ ถ้าอยู่โตเกียวก็ AKB48 ที่อากิบาฮาระ อยู่โอซาก้าก็ NMB48 ที่นัมบะ ถ้าอยู่ฟุกุโอกะก็ HKT48 ที่ฮากาตะ

แต่สำหรับทีม 8 คอนเซ็ปหลักคือตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา นั้นคือ “ไอดอลที่สามารถไปพบคุณได้” เพราะด้วยจำนวนเมมเบอร์ที่มีมากถึง 47 คน จึงสามารถแบ่งเมมเบอร์ออกได้เป็นหลายกลุ่ม ทั้งนี้จึงมีการแบ่งเมมเบอร์แยกตามภูมิภาคต่างๆ ถึง 6 กลุ่ม ได้แก่ ฮอกไกโด+โทโฮคุ , คันโต , จูบุ , คันไซ , จูโกคุ+ชิโคคุ และคิวชู

โดยเมมเบอร์ทีม 8 จะมีกิจกรรมเดินสายไปแสดงตามจังหวัดต่างๆ ทุกจังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ดำเนินการร่วมกันกับ Toyota เช่น งานแข่งรถ งานโปรโมทรถ ซึ่งถ้าจัดที่จังหวัดในภูมิภาคไหน ส่วนใหญ่แล้วเมมเบอร์ในภูมิภาคนั้นๆ ก็จะไปร่วมแสดงด้วย แต่ในหลายๆ ครั้งก็มีเมมเบอร์จากภูมิภาคอื่นมาร่วมแสดงด้วยเช่นกัน ซึ่งในจุดนี้ต้องบอกว่าไม่ได้ตายตัวนัก ซึ่งโดยทั่วไปก็จะมีเมมเบอร์ขึ้นแสดงตั้งแต่ 6 คน ไปจนถึง 16 คน

จุดเด่นอีกข้อของทีม 8 คือการที่อนุญาตให้แฟนคลับสามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอได้เต็มที่ ซึ่งถือเป็นมิติใหม่สำหรับวงการไอดอลที่ญี่ปุ่นมาก เพราะอย่างวงพี่ 48G ส่วนใหญ่แล้วมักจะห้ามการบันทึกภาพและเสียงระหว่างการแสดงในแทบทุกงาน ทำให้มีบรรดาโอตะสายตากล้องทั้งหลายที่เริ่มติดตามทีม 8 ด้วยการเดินทางไปถ่ายแฟนแคมตามจังหวัดต่างๆ ที่น้องๆ ทีม 8 ออกงาน ซึ่งมีการออกงานแทบทุกสัปดาห์ แถมการเดินทางในญี่ปุ่นก็ง่ายมาก เพราะทุกจังหวัดสามารถเดินทางไปได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟ อีกทั้งบางเมืองยังมีรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซนอีก สะดวกสุดๆ แต่ถ้าใครอยากตามคอนเซปของ Toyota ด้วยการขับรถตามไป ก็ไม่ว่ากัน

3. จุดเริ่มต้นการมิกซ์ “กาจิโค่ย”

ปกติวัฒนธรรมการเชียร์ไอดอลก็มีมานานแล้ว และ AKB48 ก็ถือเป็นการเริ่มต้นการเชียร์วงไอดอลเลยก็ว่าได้ โดยปกติแล้ว AKB48 ก็จะใช้ Standard Mix ทั่วๆ ร่วมกับการ Call ชื่อเมมเบอร์ แต่สำหรับเพลง 47 no Suteki na Machi e นั้นได้มีการเสริมมิกซ์ที่เรียกว่า “กาจิโค่ย” หรือชื่อเต็มๆ คือ กาจิโค่ยโคโจ (แปลได้ว่า ถ้อยคำบอกรัก) ซึ่งเนื้อหาเมื่อแปลแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นถ้อยคำบอกรักที่หวานซึ้งเหลือเกิน

Iitai koto ga arundayo
( มีเรื่องนึงที่อยากจะบอก )

Yappari (OOO) wa kawaiiyo
( ว่าแล้วเชียวว่า OOO น่ารักสุดๆ )

Sukisuki daisuki yappa suki
( รัก รัก รัก รักสุดๆ รักที่สุดเลย )

Yatto mitsuketa ohimesama
( ในที่สุดก็หาเจ้าหญิงของฉันพบแล้ว )

Ore ga umaretekita riyuu
( มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันเกิดมาบนโลกนี้ )

Sore wa (OOO) ni deautame
( ก็เพื่อได้มีโอกาสมาพบกับ OOO นั้นเอง )

Ore to isshoni jinsei ayumou
( มาก้าวเดินต่อไปด้วยกันในช่วงชีวิตนี้กับฉันเถอะ )

Sekai de ichiban aishiteru
( รักเธอที่สุดในโลกนี้ )

A-I-SHI-TE-RU!
( ร้ากกกกกกกกกกกกก!! )

บทกาจิโค่ยและคำแปล

สำหรับเพลง 47 no Suteki na Machi e นั้นจะมีการมิกซ์กาจิโค่ยด้วยกัน 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นการมิกซ์ตั้งแต่ช่วง Intro ของเพลงเลย จะเป็นกาจิโค่ยแบบครึ่งเดียวคือ “Iitai koto ga arundayo, Yappari OOO wa kawaiiyo, Sukisuki daisuki yappa suki” (โดย OOO จะแทนชื่อเมมเบอร์ที่เราชอบ) แล้วตามด้วย AA~~ Fu fu Fuu และท่อนมิกซ์สแตนดาร์ดอย่าง ไทก้า ไฟย่า ไซบ้า ตามโพยที่ทาง BNK48 ได้แจกเพื่อสอนมิกซ์

และในช่วงบรรเลงท้ายสุดของเพลงไปจนจบเพลง จะสามารถมิกซ์คาจิโค่ยแบบเต็มได้ โดยมิกซ์ในท่อนสุดท้ายที่บอกว่า A-I-SHI-TE-RU! จะจบลงพร้อมกับท่าเต้นสุดท้ายของเพลงพอดี

สำหรับที่มาของการกาจิโค่ยนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้มีจุดเริ่มต้นมาจาก AKB48 ทีม 8 แต่อย่างใด แต่ก็ไม่สามารถสืบค้นได้ว่าจุดเริ่มต้นที่แท้จริงในการใช้มาจากไอดอลวงไหน โดยในช่วงเริ่มต้นของการเดินสายโปรโมทเพลงของทีม 8 ก็ยังไม่ได้มีการนำกาจิโค่ยมาใช้กันในการเชียร์ แต่หลังจากได้มีการเดินสายแสดงตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นของทีม 8 ก็เริ่มมีการนำกาจิโค่ยมาใช้ในการเชียร์เพลงนี้ ซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นเพราะการได้ไปแสดงตามเมืองต่างๆ จึงได้มีกลุ่มคนที่ตามจิกะไอดอล (ไอดอลใต้ดิน) มาร่วมเชียร์ทีม 8 ด้วย และเริ่มเป็นที่ยอมรับต่อกันเรื่อยๆ จนในที่สุด การมิกซ์กาจิโค่ยก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเพลงนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

แต่สำหรับแฟนๆ ชาวไทย กาจิโค่ยอาจจะไม่ใช่ของแปลกใหม่นัก สำหรับกลุ่มแฟนคลับที่เป็นสายมิกซ์ น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะไอดอลไทยหลายๆ วงก็มีการนำกาจิโค่ยมามิกซ์ในเพลงไอดอลหลายๆ เพลง ยกตัวอย่างเช่น มุ้งมิ้งของ Sweat16 และเพลง Hi-Touch ของ Siam Dream

จากจุดเริ่มต้นของ กาจิโค่ยโคโจ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเชียร์ไอดอลใต้ดินเป็นหลัก หลังจากได้นำมาใช้กับเพลง 47 no Suteki na Machi e ของ AKB48 ทีม 8 มิกซ์บทนี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา หลายเพลงของวงไอดอลญี่ปุ่นก็เริ่มมีการนำกาจิโค่ยโคโจมาใส่ลงในมิกซ์อีกหลายๆ เพลงอีกด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นการนำมิกซ์บท กาจิโค่ย มาใช้นั้นก็ใช่ว่าจะสามารถนำไปใช้ได้กับทุกเพลงไอดอล เพราะมีจุดหลักๆ ที่ต้องดูคือ 1.ท่อนบรรเลงทีจะนำกาจิโค่ยไปใส่ก็ต้องมีความยาวพอสมควรเพื่อให้สามารถมิกซ์ได้จบบท เพราะก็จะมีหลายๆ เพลงเหมือนกันที่เพลงอาจจะไม่ได้ลงจังหวะเป๊ะๆ ก็จำเป็นต้องตัดประโยคสุดท้ายคือ A-I-SHI-TE-RU! ออกไป ทำให้เหมือนมิกซ์ได้ไม่จบบท ดังนั้นจะกาจิโค่ยได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนแต่งเพลงด้วยเช่นกัน และ 2.เนื้อหาของเพลงโดยรวมก็ต้องเหมาะสมด้วยเช่นกัน เนื่องจากบทกาจิโค่ยโคโจเป็นถ้อยคำบอกรักที่แฟนคลับตะโกนบอกกลับไปยังไอดอล ดังนั้นถ้าเพลงไม่ได้เป็นเพลงที่มีเนื้อหาพูดถึงเรื่องความรัก ต่อให้สามารถนำกาจิโค่ยไปใส่ได้แต่ก็จะไม่นิยมนำไปใช้แบบจริงจัง และอาจจะไม่เป็นที่ยอมรับให้ใช้โดยทั่วกัน ดังนั้นหากจะนำไปใช้กับเพลงอื่นก็ต้องดูบริบทของเพลงในจุดนี้ด้วย

4. เพลง 77 ดินแดนแสนวิเศษ กับการมิกซ์กาจิโค่ยโคโจ

หลังจากมีการเปิดตัวเพลง 77 ดินแดนแสนวิเศษ พร้อมกับการประกาศงานอีเว้นท์ “สอนมิกซ์” ที่เหล่าเมมเบอร์ BNK48 จะมาสอนมิกซ์ และซ้อมมิกซ์เพลงนี้กัน เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะมีการเปิดตัวเพลงในเวอร์ชั่นภาษาไทยจริงๆ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ที่ The Street Ratchada แน่นอนว่า ทาง อฟช. เองก็คงมีความคาดหวังที่จะให้โอตะได้กลับมาสนุกกับการมิกซ์เพลงของ BNK48 อีกครั้ง เพราะถ้านับกระแสการมิกซ์เพลง BNK48 ที่สามารถมิกซ์ได้แบบสนุกจริงๆจังๆ ก็ต้องย้อนไปถึงเพลง Oogoe Diamond , BNK48 แล้วก็เพลง BNK Festival เลยทีเดียว แต่เพลงเหล่านั้นล้วนใช้เป็น Standard Mix ปกติ ดังนั้นเพลง 77 ดินแดนแสนวิเศษจึงเป็นความแปลกใหม่ของทั้งเหล่าเมมเบอร์และแฟนคลับ ที่จะได้ท่องถ้อยคำบอกรักบทนี้ ถึงแม้จะเสียดายที่ไม่ได้มีการแปลท่อนมิกซ์นี้เป็นภาษาไทยเพื่อให้เข้าใจโดยทั่วกันได้ง่ายๆ แต่คิดว่าหากท่านผู้อ่านทั้งหลายได้เข้าใจคำแปลของบทกาจิโค่ยโคโจพร้อมกับเนื้อหาของเพลง 77 ดินแดนแสนวิเศษ ในภาษาไทยก็จะสามารถอินไปกับการเชียร์ได้ไม่ยาก

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ คือการขานชื่อจังหวัดของเมมเบอร์ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะของญี่ปุ่นที่มีน้องเมมเบอร์มากถึง 47 คน ที่มาจากแต่ละจังหวัดทั่วญี่ปุ่น จึงสามารถขานได้อย่างลื่นไหล แต่กับของไทยที่มีจำนวนจังหวัดมากกว่าถึง 77 จังหวัด กับเมมเบอร์เซมบัตสึในเพลงนี้เพียง 24 คน ก็น่าจะออกมาในลักษณะ 1 คน หลายจังหวัด ก็ต้องรอดูกันว่าจะออกมาแบบไหน แต่จังหวัดแรกที่จะขานน่าจะหนีไม่พ้นเชียงราย ก็ต้องมารอดูว่าใครจะเป็นคนขานชื่อนี้ เพราะเมมเบอร์ที่มาจากเชียงรายอย่างปูเป้ก็ไม่ได้ติดเซมบัตสึในซิงเกิ้ลนี้

อย่าลืมมาร่วมกันซ้อมเชียร์และร่วมตะโกนเชียร์ไปพร้อมกันในงานเปิดตัวเพลง 77 ดินแดนแสนวิเศษ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ที่ลานหน้าห้าง The Street Ratchada

สวัสดีครับ กระผมนายดับเบิ้ลบีครับ สำหรับบทความนี้ก็จะเป็นบทความพิเศษที่เขียนขึ้นมาเพื่อแนะนำอีเว้นท์ไอดอลในช่วงสุดสัปดาห์ครับ เนื่องจากว่าปัจจุบันเริ่มมีไอดอลไทยเกิดขึ้นมาเยอะแยะหลายวง รวมไปถึงก็ได้กระตุ้นให้มีการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ มากมายเช่นกัน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่านอกจากวงที่ตัวเองตามอยู่แล้ว ก็ยังมีวงไอดอลอีกหลายๆ วงที่มีกิจกรรมที่แตกต่างกัน

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม

1. BNK48 Team BIII「PARTY ga Hajimaru yo」@ เดอะมอลล์ บางกะปิ

เริ่มด้วยการแสดงเธียเตอร์ของวง BNK48 ซึ่งสำหรับผู้ที่โชคดีสุ่มตั๋วเธียเตอร์ได้ ทั้งรอบบ่ายและรอบเย็น ก็คงต้องเดินทางไปยังเดอะมอล บางกะปิ เพื่อดูโอชิของคุณ

สำหรับการแสดงในรอบนี้เมมเบอร์กว่าครึ่งเป็นเมมเบอร์ที่มาจากทีม BIII แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ใช่เมมเบอร์ในระดับเซมบัตสึตัวท็อปนัก รวมกับเมมเบอร์รุ่น 2 อีก 7 คน ก็ถือเป็นสเตจที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยว่าเด็กๆ ทั้งหลาย จะแสดงฝีมือกันออกมายังไง

โดยมีการประกาศเปลี่ยนแปลงรายชื่อคนขึ้นแทนดังนี้อ

เข่ง ขึ้นแสดงแทน >>> เค้ก
แพนด้า ขึ้นแสดงแทน >>> น้ำใส

เหมาะสำหรับ >>> ผู้ที่สุ่มเธียเตอร์ได้ และผู้ที่ต้องการไปรอเจอกับโอชิของคุณหลังเลิก

2. TOYOTA ROADSHOW @ เซ็นทรัล ภูเก็ต

สำหรับชาวต่างจังหวัด อาทิตย์นี้ BNK48 ก็ได้มีการออกงานที่ภาคใต้ จ.ภูเก็ต เป็นงานที่จัดร่วมกันระหว่าง Toyota x BNK48 งาน ” Toyota Fun Space Best For You” โดยก็ได้ 6 สมาชิกรุ่น 1 อย่าง มิวสิค เจนนิษฐ์ ไข่มุก น้ำใส เจน และปูเป้ ไปร่วมงานด้วย ก็จะได้พบกับการแสดงโชว์จัดเต็มอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจาก BNK48 แล้วคุณจะได้พบกับ Meet & Greet เต้ย จรินทร์พร และ กรรณ สวัสดิวัสดิ์ อีกด้วย

เหมาะสำหรับ >> ชาวจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียง รวมไปถึงแฟนคลับที่ต้องการตามไปเชียร์โอชิของคุณถึงจังหวัดภูเก็ต นอกจากได้เชียร์โอชิของคุณแล้วยังได้เที่ยวภูเก็ตอีกด้วย

3. BNK48 SAY JABAJA Roadshow

สำหรับโอตะของรุ่น 2 นั้นก็ยังมีกิจกรรม BNK48 SAY JABAJA Roadshow ที่จังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย กับงานโปรโมทอัลบัม JABAJA ซึ่งที่โคราชนี้เราก็ได้เมมเบอร์รุ่น 2 อย่าง ก่อน มินมิน แบมบู วี จีจี้ ฟ้อนด์ เข้าร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วย (ปล.น้องก่อน เป็นรุ่น 1 นะ) ซึ่งกิจกรรมในวันเสาร์นี้จะมีเฉพาะไลฟ์โชว์เท่านั้น แต่แน่นอนว่าจากโรดโชว์ที่ผ่านมาทั้ง 2 ครั้ง ที่สงขลา และเชียงใหม่ ย่อมพิสูจน์ความมันส์ได้แล้วอย่างแน่นอน สำหรับที่โคราชเป็นที่สุดท้ายแล้ว ดังนั้นไม่ควรพลาด

เหมาะสำหรับ >> แฟนคลับรุ่น 2 / แฟนคลับน้องก่อน และผู้ที่สามารถเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมาได้สะดวก

4. AKB48 Group Asia Festival in Shanghai

สำหรับกิจกรรมนี้ ก็ต้องบินไปไกลถึงประเทศจีน เมืองเซี้ยงไฮ้ กันเลยทีเดียวกับงานสุดอลังการ AKB48 Group Asia Festival in Shanghai ที่เป็นการรวมตัวกันของสมาชิกวง 48G หลากหลายวงทั่วโลก ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ใครที่เคยไปครั้งแรกที่มาจัดที่ไทย คงรู้ว่าสนุกและมันส์ขนาดไหน งานนี้แน่นอนว่าขนเมมเบอร์ระดับท็อปไปทั้งนั้น นำโดย เฌอปราง ปัญ เนย โมบาย อร อิซุรินะ นิกี้ และ ฝ้าย

เหมาะสำหรับ >> แฟนคลับที่ต้องการบินตามไปให้กำลังใจโอชิ และชื่นชอบและอยากชมการแสดงสุดอลังการของ 48 Group

5. Sweat16 Dream Fan Tour in Japan

ข้ามมาที่ฝั่งของวงไอดอล Sweat16 ก็ได้เข้าร่วมงาน @JAM EXPO 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่น งานนี้ก็ขนเมมเบอร์ไปครบทั้ง 12 คนเลยทีเดียว (ขาดน้องมิวสิคที่เพิ่งขอออกจากวง) สำหรับงานนี้ก็ได้มีการขาย Exlusive Tour Package ที่นอกจากจะได้ไปตามเชียร์น้องๆ ถึงญี่ปุ่นแล้ว ยังได้ร่วมเที่ยว และกิจกรรมสุดพิเศษกับน้องๆ เมมเบอร์อีกด้วย

เหมาะสำหรับ >> ผู้ที่อยู่ญี่ปุ่น และต้องการมาเชียร์วง Sweat16 ก็พบกันได้ที่งาน @JAM รวมไปถึงผู้ที่ซื้อ Exclusive Package จากไทยก็รอร่วมกิจกรรมพิเศษกับน้องๆ ได้เลย

ตารางกิจกรรม
★เวลาแสดง
14:55-15:15 น. ( Blueberry stage, ชั้น 2)
★กิจกรรมเชกิ
12:10-13:10 น. (Fureai area, ชั้น 4)
★จำหน่ายสินค้า （บริเวณชั้น 1)
10:00－18:00 น.
(สินค้าที่จำหน่าย Photoset, Baseball T-Shirt, Bubble Tea Pouch)
บูธเล่นเกมและขายอาหารของงาน @JAM EXPO（บริเวณด้านนอกฮอลล์)
เวลา 18:00-19:00 น. เมมเบอร์ร่วมกิจกรรมที่บูธ

6. Idol & Cover Dance Matsuri 2019 @ ซีคอนบางแค

ในฝั่งไอดอลวงอื่นๆ ก็ได้มีงาน IDOL & Cover Dance Matsuri ที่ครั้งนี้ย้ายมาจัดที่ซีคอน บางแค โดยคุณจะได้พบกับไอดอลหลากหลายวง ทั้งการแสดง กิจกรรมต่างๆ ของแต่ละวง รวมไปถึงการแสดงของวงโควฟเวอร์ด้วย ทั้งนี้ แต่ละวง นอกจากการแสดงบนเวทีแล้ว ยังมีกิจกรรมอาทิ การเชกิ การจับมือ ต่างๆ ซึ่งขอให้ดูตารางเวลาจากช่องทางของวงอีกครั้ง เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดกิจกรรมดีๆ ไป

สำหรับตารางการแสดงบนเวที จะมีดังต่อไปนี้

10.00 – 12.00 ลงทะเบียน
12.00 – 14.00 กิจกรรม FreeStage AniSong
————————–
14.00 – 14.10 วงโคฟวงที่ 1 1st*ONE Cover IZ*ONE
14.10 – 14.20 วงโคฟวงที่ 2 Griffin Doll Cover JPOP
14.20 – 14.30 วงโคฟวงที่ 3 PICAROON☆ Cover Aqours
14.30 – 14.40 วงโคฟวงที่ 4 PYT Cover AKB48
14.40 – 14.50 วงโคฟวงที่ 5 Ja’Nonn Cover Cy8er
14.50 – 15.00 วงโคฟวงที่ 6 Tachibana Project Cover Akishibu Project
————————–
15.00 – 15.20 กิจกรรม Idol วง MAYDAY
15.20 – 15.40 กิจกรรม Idol วง Akira-Kuro
————————–
15.40 – 16.00 กิจกรรมพักเบรค
————————–
16.00 – 16.15 Idol Live Show วง ReSweet
16.15 – 16.30 Idol Live Show วง DAISY DAISY
16.30 – 16.45 Idol Live Show วง Happy Tail
16.45 – 17.00 Idol Live Show วง Secret12
————————–
17.00 – 17.10 วงโคฟวงที่ 7 MATSURI Cover Festive
17.10 – 17.20 วงโคฟวงที่ 8 L@dies Ready!! Cover THE iDOLM@STER
17.20 – 17.30 วงโคฟวงที่ 9 U-SIR! Cover I☆Ris
17.30 – 17.40 วงโคฟวงที่ 10 MEDI+CODE Cover Babyraids Japan
17.40 – 17.50 วงโคฟวงที่ 11 MANJI Cover JPOP
17.50 – 18.00 วงโคฟวงที่ 12 【ニーズ 】needs Cover Garnidelia
————————–
18.00 – 18.20 กิจกรรม Idol วง Happy Tail
18.20 – 18.40 กิจกรรม Idol วง Secret12
18.40 – 19.00 กิจกรรม Idol วง Zenkiri
————————–
19.00 – 19.15 กิจกรรมพักเบรค
————————–
19.15 – 19.30 Cover Dance Show by FMA
19.30 – 19.45 Idol Live Show วง MAYDAY
19.45 – 20.00 Idol Live Show วง Zenkiri
20.00 – 20.15 Idol Live Show วง Akira-Kuro
20.15 – 20.30 Idol Live Show วง Bite Me
**************************

เหมาะสำหรับ >> ผู้ตามไอดอลวงที่ได้ขึ้นแสดงในงาน รวมไปถึงยังอยู่ในกรุงเทพฯ และไม่รู้จะไปตามไอดอลทีไหนดี มางานนี้ก็ได้เจอหลายวง เผลอๆ อาจจะได้โอชิเพิ่มจากวงหน้าใหม่ก็เป็นได้นะ

ก็หมดกันไป สำหรับกิจกรรมในวันเสาร์ ซึ่งมีมากถึง 6 งาน เลยทีเดียว !!! แต่ละงานก็แบ่งแฟนคลับไปคนละสถานที่กัน แน่นอนว่า ไม่สามารถมีใครไปครบได้ทุกงานแน่นอน แค่งานของ BNK48 งานนี้ก็เรียกได้ว่ามีงานกันรัวๆ แทบทุกที่แล้ว แต่จบจากวันเสาร์ ก็ยังไม่ได้พักกันง่ายๆ ไปดูงานวันอาทิตย์ต่อเลยครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม

1. BNK48 Team BIII「PARTY ga Hajimaru yo」@ เดอะมอลล์ บางกะปิ

สำหรับเธียเตอร์ BNK48 ก็ยังคงขนเมมเบอร์มาขึ้นแสดงอย่างแน่นหนา น่าเสียดายที่แก้วที่อยู่ในระหว่างพักงานก็จะไม่ได้ขึ้นสเตจในวันนี้ โดยจะได้ผักขมมาขึ้นแสดงแทน

เหมาะสำหรับ >>> ผู้ที่สุ่มเธียเตอร์ได้ และผู้ที่ต้องการไปรอเจอกับโอชิของคุณหลังเลิก

2. BNK48 SAY JABAJA Roadshow

ต่อเนื่องกันจากวันแรก โดยงานโรดโชว์วันที่สองนี้ จะไม่มีการแสดง แต่จะเป็นการจับมือกลุ่ม โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 เลน ด้วยกัน รวมทั้งหมด 3 รอบ ในช่วงบ่ายถึงเย็น โดยสามารถหาซื้อสินค้าเข็มกลัด ในราคา 250 บาท ก็จะได้บัตรจับมือ 1 ใบ หรือจะหาซื้อเฉพาะบัตรจับมือต่อจากพ่อค้าแฟนคลับก็ได้ ซึ่งราคาก็แล้วแต่จะตกลงกันกับผู้ขาย

เหมาะสำหรับ >> ผู้ที่อยากพูดคุย และจับมือกับโอชิของคุณ รวมไปถึงผู้ที่เดินทางไปนครราชสีมาได้สะดวก งานนี้ถือว่าคุ้ม บัตร 1 ใบ จับมือได้ถึง 3 คนเลยทีเดียว

3. DAISY DAISY THE DEBUT 

พบกับงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของวง Daisy Daisy ซึ่งขนสมาชิกมาครบทั้ง 11 คน และยังมีกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย อาทิ กิจกรรม 2-Shot และพูดคุยกับเมมเบอร์ของ Daisy Daisy การวางจำหน่ายโฟโต้เซ็ตเป็นครั้งแรก (มี SSR ด้วยนะ) แถมยังมีสินค้า Exclusive ทั้งเสื้อและหมวก ให้ได้เลือกซื้อกันอีก เรียกได้ว่าแฟนคลับวงนี้ไม่ควรพลาดเลย

4. งานแถลงข่าวเปิดตัวเพลง “ความคิดถึงของฤดูฝน” SY51

อีกหนึ่งงานเปิดตัว กับการร่วมมือกับของ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน Wiko และไอดอลภาคเหนือ SY51 จะมาเปิดตัวเพลงใหม่ พร้อมการประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่าง Wiko และ SY51 อีกด้วย น่าสนใจว่าจะมีกิจกรรมพิเศษ หรือโปรโมทชั่นอะไรโดนใจแฟนคลับบ้าง แน่นอนสำหรับผู้ที่ซื้อโทรศัพท์มือถือจาก Wiko ในช่วงเวลาที่กำหนด (ที่ผ่านมาแล้ว) ก็สามารถถ่ายรูป Cheki กับเมมเบอร์ได้อีกด้วย

อีกทั้ง น่าจะมีการเปิดตัว MV เพลง ความคิดถึงของฤดูฝน และการแสดงสดครั้งแรกอีกด้วย

5. Sneakers Showcase with Cm Cafe

ทางฝั่งของค่าย Cm Cafe ก็ไม่น้อยหน้า ขนไอดอลทั้ง 3 ยูนิต มาร่วมงานที่ Terminal 21 อีกด้วย งานนี้ก็มีทั้งกิจกรรมเชกิ และการแสดงไลฟ์อีกด้วย มีข่าวมาว่าจะมีการเซอร์ไพซ์พิเศษอะไรด้วยล่ะ แฟนคลับก็ต้องติดตามรอ ห้ามพลาดเลยนะ

6. Thailand’s Pubstomp 2019

และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมส์และติดตามวง Siam Dream อยู่ ต้องไม่พลาดกับงาน Pubstorm งานแข่งขันเกมส์ DOTA หรืองาน TI ที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้นเอง งานนี้สาวๆ SIam Dream นอกจากจะไปร่วมแสดงแล้ว ยังมีกิจกรรมเชกิอีกด้วย

7. Idol & Cover Dance Matsuri 2019 @ ซีคอนบางแค

สำหรับงาน Idol & Cover Dance Matsui ก็จัดต่อเนื่องในวันที่ 2 ขนวงไอดอลอีกมากมายมาแสดงในงาน รวมไปถึงแต่ละวงก็มีอีเว้นท์กิจกรรมแยกกันในแต่ละวงอีก ติดตามข้อมูลได้จากช่องทางของแต่ละวงได้เลย

สำหรับตารางการแสดงบนเวที จะมีดังต่อไปนี้

10.00 – 12.00 ลงทะเบียน
12.00 – 14.00 กิจกรรม FreeStage AniSong
————————–
14.00 – 14.10 วงโคฟวงที่ 1 Ais Cream Cover Hey!Say!JUMP
14.10 – 14.20 วงโคฟวงที่ 2 HL794 Cover Touken Ranbu The Musical
14.20 – 14.30 วงโคฟวงที่ 3 ZUCK Cover ZOC
14.30 – 14.40 วงโคฟวงที่ 4 Cronos Cover Vocaloid
14.40 – 14.50 วงโคฟวงที่ 5 Milk☆Tea Cover I☆Ris
14.50 – 15.00 วงโคฟวงที่ 6 Chapu Kurage Cover 26 ji no masquerade
————————–
15.00 – 15.20 กิจกรรม Idol วง BHX
15.20 – 15.40 กิจกรรม Idol วง DUST
15.40 – 16.00 กิจกรรม Idol วง Melt Mellow
————————–
16.00 – 16.15 กิจกรรมพักเบรค และ SP Show
————————–
16.15 – 16.30 Idol Live Show วง Taste of Love
16.30 – 16.45 Idol Live Show วง Blissful
16.45 – 17.00 Idol Live Show วง Black Dolls
————————–
17.00 – 17.10 วงโคฟวงที่ 7 IDolliZe Cover I☆Ris
17.10 – 17.20 วงโคฟวงที่ 8 Mi-ke Neko Cover Wasuta
17.20 – 17.30 วงโคฟวงที่ 9 MimiShippo Cover JPOP
17.30 – 17.40 วงโคฟวงที่ 10 DPG48 Cover 48Group
17.40 – 17.50 วงโคฟวงที่ 11 SSS Cover JPOP
17.50 – 18.00 วงโคฟวงที่ 12 Yakiniku46 Cover Keyakizaka46
————————–
18.00 – 18.20 กิจกรรม Idol วง Blissful
18.20 – 18.40 กิจกรรม Idol วง Black Dolls
18.40 – 19.00 เปิดตัววง Shining Stars และวง White Out
————————–
19.00 – 19.15 กิจกรรมพักเบรค
————————–

19.15 – 19.30 Cover Dance Show by Arthur
19.30 – 19.45 Idol Live Show วง DUST
19.45 – 20.00 Idol Live Show วง BHX
20.00 – 20.15 Cover Dance Show by ANiMALOID
20.15 – 20.30 Idol Live Show วง Melt Mellow

เรียกได้ว่า อัดแน่น จัดหนัก จัดเต็ม กันเลยทีเดียว สำหรับอีเว้นท์ไอดอลอาทิตย์นี้ครับ ใครไปงานไหนกันบ้าง ก็มาเล่าให้ฟังได้นะครับ งานนี้ก็จัดตารางกันดีๆ ฟิตร่างกายให้พร้อมครับ !!

แล้วพบกันใหม่ ep หน้าครับ