Exclusive Interview – IDOLTH ไอดอลไทยดอทคอม แหล่งร่วมข้อมูลข่าวสาร ตารางงาน ไอดอลไทย Wed, 11 Mar 2020 07:54:11 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.5 /wp-content/uploads/2019/08/mobileicon-150x150.png Exclusive Interview – IDOLTH ไอดอลไทยดอทคอม 32 32 สัมภาษณ์พิเศษ เจาะลึกที่มาและแนวทางของวงไอดอล “Pretzelle” จากคุณเบ๊นซ์ Music Director และผู้ก่อตั้งวงเพรทเซล /article/6136?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a1%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%93%e0%b9%8c%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a9-%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%b5 Wed, 04 Mar 2020 18:01:56 +0000 /?p=6136

กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทสัมภาษณ์จาก IDOLTH โดยในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับวงไอดอลน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน IDOL Expo #3 เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา กับ 4 สาว ที่มีชื่อวงเหมือนกับชื่อขนมที่ทุกคนต้องเคยกิน กับวง Pretzelle (เพรทเซล) แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับน้องๆ ทั้ง 4 คนแบบเจาะลึก เรามารู้จักที่มาของวง Pretzelle กันก่อน ว่าวงนี้มีที่ไปที่มา มีแนวทางการทำวง และจุดเด่นยังไง โดยงานนี้เราก็ได้บุกไปถึงฐานทัพของวง Pretzelle และได้รับเกียรติพูดคุยกับคุณเบ๊นซ์ ผู้เป็น Producer ของน้องๆ วง Pretzelle ที่สามารถตอบคำถามต่างๆ ที่จะทำให้เราได้รู้จักวง Pretzelle มากยิ่งขึ้น

แนะนำตัวหน่อย

สวัสดีครับ ผมชื่อเบ๊นซ์ เป็น Music Director ของบริษัท และ Producer ของวง Pretzelle ครับ

จุดเริ่มต้นของวงเกิดขึ้นได้ยังไง ?

คือจุดเริ่มต้นเลยคือเราเป็นบริษัทที่ทำงานในด้านการทำเพลงมาก่อน ซึ่งเราก็ได้ร่วมงานกับทางเกาหลีทำเพลงประกอบละครของทางเกาหลี โดยที่ทางเราเป็นคนทำเพลงให้ทั้งหมด และมีนักร้องเป็นคนเกาหลี จากนั้นพอเราทำไปได้ซักพักเราก็เริ่มคิดว่าเพลงเราน่าจะขายได้นะ ทำไมเราไม่ทำศิลปินส่งออกที่เป็นคนไทยเองบ้าง ก็เลยเริ่มสนใจที่จะทำเกิร์ลกรุ๊ปไอดอลครับ

อีกขานึงคือบริษัทก็เราก็เคยจัดงานพวกแฟนมีตศิลปินเกาหลีด้วย คือต้องบอกว่าเราคุ้นเคยกับการทำงานที่เกี่ยวกับเกาหลีพอสมควร รวมไปถึงเราได้เป็นโปรโมเตอร์ในการจัดงานคอนเสิร์ทเพลงประกอบเกมส์อย่าง Distant Worlds: music from FINAL FANTASY และ NieR: Orchestra Concert ด้วย พอทำแล้วก็เห็นว่ามีผู้สนใจเยอะ และพวกเราเองก็มี Passion ในเรื่องเกี่ยวกับเกาหลี เกมส์ อะไรพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยเกิดความสนใจที่จะทำเพลงในแนวของไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นมา เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้มาทำวง Pretzelle ครับ

ชื่อ Pretzelle มาจากไหน ใครเป็นคนคิด ?

ชื่อ Pretzelle คนที่เสนอชื่อนี้ขึ้นมาก็คือน้องๆ เองเลย ตอนแรกเราก็มานั่งคิดร่วมกัน มันก็มีหลายตัวเลือกอยู่เหมือนกัน แบบตอนแรกจะมีชื่อ แมงโก้ ที่เสนอขึ้นมา เพราะว่าเราจะทำศิลปินสำหรับส่งออก แล้วมีอะไรบ้างที่เกี่ยวกับไทย น้องก็เสนอชื่อแมงโก้ขึ้นมา แต่พอมานั่งคิดกัน ก็แบบ….เอาจริงเหรอ? สุดท้ายก็ตัดตัวเลือกนี้ไป จริงๆ ก็มีอีกหลายชื่อเลยที่คิดขึ้นมา แต่บางชื่อก็จริงจังไป บางชื่อก็ตลกๆ เกินไป

แปลว่าน้องๆ เข้าวง มาก่อนที่จะได้ชื่อวง ?

ใช่ครับ คือน้องๆ เข้าวงกันมาก่อน จากนั้นเราก็ค่อยมานั่งคิดชื่อวงกันอีกที แล้วชื่อ Pretzelle ที่น้องๆ เสนอกันมา ตอนแรกผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำนะว่ามันคืออะไร แต่ผมก็เอาไปค้นดูว่ามันคืออะไร มีความหมายยังไงบ้าง ก็พบว่าความหมายมันค่อนข้างไปทาง Positive คือ Pretzelle เนี่ย ความหมายจริงๆ ของมัน ก็คือ “ขนมที่เป็นรางวัลของเด็กดี” เป็นขนมที่เอาไว้ใช้แจกให้กับเด็กที่ทำความดีเพื่อให้กำลังใจกับเด็กเหล่านั้นได้ทำความดีต่อไป

อ่านเพิ่มเติม >> เปิดตำนาน “ขนมของเด็กดี”

แล้วพอเราได้ทำงานร่วมกับน้องๆ ก็พบว่าคาแรกเตอร์ของน้องๆ ที่เป็นคนสนุก ร่าเริง มองโลกในแง่ดี และด้วยรูปร่างของขนมเพรทเซลที่เหมือนสัญลักษณ์ของตัวอินฟินิตี้ ที่จะสื่อได้ถึงความรักที่มีให้กับแฟนๆ ความสดใส ความพยายามต่างๆ ก็ดูมีความเชื่อมโยงกับคาแรคเตอร์ของน้องๆ ได้อย่างดี ก็เลยตัดสินใจที่จะใช้ชื่อนี้ในที่สุดครับ

การคัดเลือกสมาชิก ที่ไปที่มายังไง ?

สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกว่า คือผมมีภาพอยู่ในหัวตั้งแต่แรกเลยว่าเราอยากได้ ทีม 4 คน ที่ประกอบด้วย 2 นักร้อง / 1 แร๊ปเปอร์ / 1 วิช่วล ส่วนว่าทำไมต้อง 4 คน เพราะผมมองว่า 4 คน เป็นจำนวนที่ไม่เยอะไป และก็ไม่น้อยไป เพราะถ้า 3 คนก็อาจยังไม่เรียกว่าเป็นกรุ๊ป เป็นได้แค่ทรีโอ้ ถ้า 5 คน ก็เดี๋ยวต้องมีคนที่อยู่ตรงกลางอีก ก็จะเป็นการแย่ง Position กัน และถ้า 6 คนก็จะเยอะเกินไป เลยคิดว่า 4 คน เป็นจำนวนที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

พอเรามีนักร้องนำ 2 คน เราก็สามารถที่จะเฉลี่ยท่อนร้องกันได้ ก็จะทำให้เพลงมีมิติมากยิ่งขึ้น แถมพอได้แร๊ปเปอร์มาอีก ที่เขาก็จะดูแลในส่วนของท่อนแร็ป ก็จะทำให้ตัวเพลงมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และส่วนของวิช่วล เราก็พยายามหาคนที่น่ารักและมีเสน่ห์ พอที่จะดึงคนที่เขาไม่รู้จักเราให้เขาลองมาดูการแสดงของเรา มาเห็นข้อดีในส่วนอื่นของเรา เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้เราทำเพลงออกมาดีแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่สามารถเชิญชวนให้เขาลองมารู้จักเราได้ มันก็ยากที่จะไปต่อ

“เราเลยต้องการ 4 คน ที่เด่นในหน้าที่ของตัวเอง”

แล้วในอนาคตจะมีเพิ่มคนไหม ?

ไม่มีเลยครับ ต้องบอกว่าแผนทุกอย่างถูกคิดเอาไว้เพื่อพวกเขา 4 คนเลย

แนวทางของวงเป็นยังไงบ้าง ?

อย่างแรกก็ต้องบอกว่าไม่อยากใช้คำว่าอิงกับประเทศไหนเลย คือผมรู้สึกว่าทุกๆ ระบบมันมีข้อดีข้อเสียของมัน เลยอยากเอาข้อดีของหลายๆ ระบบมาปรับใช้มากกว่า รวมถึงอยากให้มันมีความเป็นไทย เข้ากับคนไทย ถูกใจคนไทยด้วยครับ

สิ่งที่เราอยากสื่อ คงเป็นเรื่องของ เพลง การร้อง การเต้น แฟชั่น เป็นหลัก ส่วนวิธีการนำเสนอ เราก็ไม่ได้เจาะจงว่าเราต้องพูดเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความพยายาม ความสามารถต่างๆ เราคิดว่าคงเลือกที่จะนำเสนอให้เหมาะสมกับช่วงเวลานั้น เช่น ช่วงเวลานั้นสังคมกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ หรือช่วงอายุของน้องๆ เอง ว่าในช่วงวัยของน้องๆ เนี่ย มีการพูดกันด้วยภาษาแบบไหน สนใจเรื่องอะไรอยู่

ก็จะพยายามทำให้บุคลิก นิสัย ตัวตนของน้องๆ เข้ามาอยู่ในทุกๆ ชิ้นงานของเรา อย่างที่เห็น เช่น ความร่าเริง ความสนุกสนาน เป็นมิตร ก็จะถูกนำมาเป็นรูปแบบที่เรานำเสนอออกมาให้แฟนๆ ได้เห็นกัน ซึ่งงานจะถูกนำเสนอออกมาดีแค่ไหน ก็จะขึ้นอยู่กับความเข้ากันของน้องๆ ยิ่งความเป็นทีมของเขามีมากแค่ไหน เขาก็จะยิ่งนำเสนอออกมาได้ดีขึ้น ก็เลยเป็นเรื่องการดูแลด้วย ว่าเราจะดูแลน้องๆ ยังไง ให้น้องๆ มีความเข้ากันได้มากขึ้น ทั้งในเรื่องความรัก ความสามัคคี ความเป็นพี่น้อง ความเป็นเพื่อน ไลฟ์สไตล์ แนวคิดต่างๆ

การฝึกซ้อมเข้มงวดแค่ไหน ? มีตารางฝึกซ้อมเป็นยังไงบ้าง ?

ก็จะมีเรียนร้อง เรียนเต้น ทั้งจากคุณครูที่เป็นคนไทย และคนต่างชาติ โดยเฉลี่ยก็จะประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ แต่ถ้าเป็นช่วงเข้มๆ แบบใกล้ออกงาน หรือต้องอัดเพลง ก็จะเพิ่มเป็น 4-5 วันต่อสัปดาห์ครับ

นอกเหนือจากเรื่องการร้อง การเต้นที่เราซ้อมให้กับน้องแล้ว เราก็มีเรื่องภาษาจีนเสริมเข้ามาด้วย อย่างเมื่อช่วงกลางปีที่แล้วหลังจากที่น้องอยู่กับเราได้ครึ่งปี เราก็มีส่งน้องๆ ทั้ง 4 ไปฝึกซ้อมที่ประเทศจีน เหตุผลนึงก็คือเรื่องของการฝึกภาษา รวมถึงเราอยากให้น้องๆ ได้อยู่ด้วยกัน เพราะอยู่ที่นั้น เขาต้องทำทุกอย่างเองด้วยกันเป็นทีม โดยเราก็มีส่งทีมงานไปช่วยดูแลน้องๆ แต่หลักๆ คือเราอยากให้น้องๆ ได้อยู่ด้วยกัน ระยะเวลาก็ประมาณเดือนนึงได้ครับ

และเราเองก็มีคอนเน็คชั่นกับทางจีนอยู่แล้ว ทางเขาก็ชอบคนไทยด้วย เราก็มองว่าจีนก็เป็นอีกตลาดใหญ่ที่น่าสนใจ ในอนาคตคนอาจจะพูดกันด้วยภาษาจีนมากขึ้น และเราเองก็เคยทำงานกับจีนก็พบว่ามันโอเค เลยอยากที่จะโฟกัสไปทางนี้ด้วยครับ

พูดถึงผลงานเพลง Ping Pong Pang ที่ออกมาหน่อย ?

จริงๆ แล้ว เพลง Ping Pong Pang มีเวอร์ชั่นที่เป็นภาษาเกาหลี ร้องโดยคนเกาหลี ซึ่งจะฉายกับการ์ตูนเรื่องเทเทรุที่ฉายในประเทศเกาหลีครับ แต่เทเทรุก็มีฉายในต่างประเทศด้วย ซึ่งเวอร์ชั่นที่ฉายในต่างประเทศนอกเกาหลีก็จะเป็นเพลง Ping Pong Pang เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่น้องๆ Pretzelle ได้ร้องครับ

โดยทางเราเองก็เป็นคนแต่งเพลงและทำเพลง Ping Pong Pang ตั้งแต่แรก และทางเกาหลีก็เอาเนื้อไปแปลเป็นเวอร์ชั่นเกาหลีอีกที ต้องบอกว่าทางเราเป็น Music Director ให้กับการ์ตูนเรื่องนี้เลยครับ และรวมถึงในอนาคตก็อาจจะมีร่วมงานกับทางเกาหลีอีก

นอกจากนี้ก็มีผลงานเพลงที่มีชื่อเพลงว่า เมื่อโลกนี้มีเธอ ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเรื่อง “เล่ห์เกมส์รัก” ที่จะออกอากาศพร้อมกันทั้งประเทศไทยและที่ประเทศจีน โดยสามารถรับชมได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น WeTV เร็วๆ นี้

ความถี่ในการออกผลงานใหม่ จะเป็นยังไง ?

ขอไม่บอกเป็นจำนวนละกัน แต่บอกได้แค่ว่า มีให้ติดตามกันทั้งปีครับ อย่างเร็วๆ นี้ เราก็จะมีซิงเกิ้ลแรกของน้องๆ ที่จะเป็นเดบิ้วท์ซิงเกิ้ล ของน้องๆ เองเลยครับ

การร่วมงานกับทางต่างประเทศ ทางเราก็ไม่ได้ปิดกั้นนะครับ คือเราอยากเสนออะไรที่เป็นแฟชั่น เป็นเทรนด์ เราก็จะดูที่ความเหมาะสมของตัวน้องๆ เป็นหลัก คือถ้ามันไม่พอดี หรือดูไม่เข้ากับน้อง เราก็อาจจะต้องเปลี่ยน แต่คือเราก็ไม่ได้จำแนกว่ามันจะต้องเป็นแนวไทย ญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลี ซึ่งการจะรู้ว่าเหมาะหรือไม่เหมาะกับตัวน้องหรือเปล่า ก็ต้องมาลองดูกันอีกทีครับ

รูปแบบกิจกรรมของวงที่จะมีในอนาคต ที่แฟนๆ จะได้พบปะน้องๆ จะมีกิจกรรมอะไรบ้าง ?

เราก็มีศึกษาและก็ดูตัวอย่างจากวงไอดอลต่างๆ ในไทยอยู่บ้าง หลักๆ เลย เราก็จะเน้นที่การโชว์ของน้องๆ เป็นหลักครับ ส่วนกิจกรรมพวกการถ่ายรูป แฟนไซน์ คิดว่าคงมีแน่นอน แต่ด้วยจำนวนสมาชิกของเราที่มีแค่ 4 คน และไม่ได้มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิก ก็ต้องขอดูรูปแบบที่เหมาะสมกับน้องๆ กันอีกทีครับ

วงมีแนวทางในการออกงานยังไงบ้าง เช่นงานไอดอลต่างๆ งานตามห้าง งานพรีเซนเตอร์ต่างๆ

เรื่องนี้เราก็ค่อนข้างเปิดกว้างนะครับ ถ้าใครสนใจจะให้ไปออกงานก็ยินดีอย่างยิ่ง (ฮาๆ) แต่ถ้ามองในแง่เป้าหมาย เราก็มองว่าอยากให้น้องๆ ได้ขึ้นงาน Music Festival ในฐานะศิลปิน แต่ในส่วนของเวทีไอดอลเราก็มองว่าเป็นอะไรที่ใกล้ตัวและก็น่าจะเข้ากับตัวน้องเช่นเดียวกัน เราก็มองว่าอยากเปิดรับแฟนคลับในทุกๆ ประเภท ไม่ว่าจะชอบแนวไหนก็อยากให้ลองเข้ามาหาน้องๆ กันดูครับ

เราก็อยากให้น้องได้ลองดูในหลายๆ แบบก่อน เราถึงจะได้รู้ว่า แบบไหนที่เหมาะกับเรา

แล้วช่องทางในการติดตามน้องๆ จะมีไลฟ์ผ่านเฟสอะไรอย่างนี้ยังไงบ้าง?

ก็ก่อนหน้านี้ก็จะมี Live Facebook รวม ของน้องๆ ในวันวาเลนไทน์ ตรงนี้ก็คิดว่าคงจะมีเรื่อยๆ ตามโอกาสพิเศษ ก็ถ้ามีผลตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็คิดว่าจะทำเรื่อยๆ นะครับ ก็อยากให้มาติดตามกันเยอะๆ และหลังจากนี้เราก็จะมีพวกกิจกรรมที่จะให้แฟนๆ ได้ร่วมสนุกกันในช่องทางอื่นๆ ด้วย ตรงนี้เราเองก็มีการวางแผนกันอยู่ คิดว่าหลังจากนี้จะค่อยๆ มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ก็อยากให้ช่วยติดตามเราให้ครบทุกช่องทางกันด้วยครับ

Facebook : https://www.facebook.com/mypretzelle/
Twitter : https://twitter.com/mypretzelle
Instagram : https://www.instagram.com/mypretzelle/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCUic_1S8_5yGh-E34h9B2wg

เห็นเริ่มทยอยลงผลงานในช่อง YouTube เยอะเลย ทางค่ายก็มีส่วนร่วมกับน้องๆ ใช่ไหม ?

ใช่ครับ ทางเราเองเป็นคนที่ทำตรงนี้ให้กับน้องๆ ก็มีคุยกันร่วมกับน้องว่าจะเลือกเพลงอะไรมาโคฟเวอร์หรือมาเต้น เพื่อแสดงศักยภาพของน้องแต่ละคนออกมาให้แฟนๆ ได้เห็น นอกจากคลิปที่ลงให้กับช่องของทาง Pretzelle แล้ว น้องแต่ละคนก็จะมีช่องทาง YouTube ของตัวเองให้ได้ติดตามกันด้วยครับ

YouTube INC : https://www.youtube.com/incmtw
YouTube NANA : https://www.youtube.com/c/fromnana
YouTube BAMEEKT : https://www.youtube.com/c/bameekt

งานเดบิ้วท์ที่จะเกิดขึ้น มีวางแผนรูปแบบงานไว้ยังไงบ้าง ?

ก็จะเป็นลักษณะของงานแฟนมีต ที่จะเปิดตัวน้องๆ อย่างเป็นทางการ มีการแสดงจากน้องๆ ทั้งเพลงที่ได้เปิดตัวไปแล้ว และเพลงเดบิ้วท์ซิงเกิ้ลแรกของน้องๆ รวมไปถึงมี Music Video อย่างแน่นอนครับ

เนื่องจากเราเองก็เป็นคนที่จัดงานคอนเสิร์ต ทำพวกแฟนมีตกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าก็ต้องมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอนครับ

ในงาน IDOL Expo #3 เรามีการแจก Invitation Card ไปให้กับแฟนๆ ที่เข้ามาหาเราในวันนั้นด้วย เรามองว่าวันแรกเป็นอะไรที่ยากเสมอ และกับแฟนๆ ที่ได้เข้ามาหาเราตั้งแต่วันแรกๆ เราอยากที่จะดูแลเค้าให้ดีที่สุด ดังนั้นเราก็เลยให้น้องได้เป็นคนเชิญแฟนๆ เหล่านั้นด้วยตัวเอง โดยข้อความในการ์ดก็จะเป็นข้อความที่น้องๆ แต่ละคนคิดขึ้นมาเองว่าอยากบอกอะไรกับแฟนๆ และเชิญชวนแฟนๆ มาร่วมในงาน Debut อย่างไร

และคนที่ถือ Invitation Card นั้น มาในวันงาน Debut ของเรา ก็จะมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอน ก็รอลุ้นกันได้เลยครับ ส่วนสำหรับคนที่ไม่ได้ Invitation Card ก็สามารถมางานได้นะครับ ขอให้ติดตามการลงทะเบียนได้ในเพจ เร็วๆ นี้ครับ

สุดท้ายนี้ มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟนๆ ที่ติดตามมั้ยครับ

ก็ขอฝากน้องๆ Pretzelle ทั้ง 4 คน ไว้ด้วยนะครับ ^_^


ไอซ์ อิรวดี สัจจพานิชกุล

Facebook : https://www.facebook.com/iceirwd/
IG : https://www.instagram.com/iceirwd/

บะหมี่ กันติชา วิบูลสมัย

Facebook : https://www.facebook.com/bameekt/
IG : https://www.instagram.com/bameekt_/

อิ้น มาธวี รัตนวิจิตร

Facebook : https://www.facebook.com/incmtww/
IG : https://www.instagram.com/incmtw/

นานา ภัทรวรินทร์ ชู

Facebook : https://www.facebook.com/fromnana19/
IG : https://www.instagram.com/fromnana/


ติดตามคลิปวิดีโอสัมภาษณ์น้องๆ Pretzelle ทั้ง 4 คน แบบเจาะลึก ได้ที่ IDOLTH.com เร็วๆ นี้

]]>
“ความฝัน ความรู้สึก ความเข้าใจ เเละไอดอล” กับการเล่าเรื่องราวจากคุณนัท ผู้กำกับ Music Video เพลง The Feeling ของ FEVER /article/5691?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%9d%e0%b8%b1%e0%b8%99-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%b6%e0%b8%81-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1 Mon, 24 Feb 2020 20:04:46 +0000 /?p=5691

Fever ได้ยินเเค่ชื่อก็คงการันตี ความเท่ เอกลักษณ์เฉพาะตัว และคุณภาพของผลงานที่สูงในระดับไว้ใจได้ หรือจะเป็นอีกด้านเช่นความเป็นกันเอง ความตลก เสียงหัวเราะ ของตัวศิลปินเอง เเต่นี่ยังคงไม่ใช่เรื่องราวหลักที่เราจะมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้ครับ วันนี้เราจะมานั่งคุยกับ คนเบื้องหลัง ที่เป็นผู้สรรสร้างผลงานคุณภาพนี้ออกมาว่ากว่าจะออกมาเป็น MV ซิงเกิ้ลล่าสุดอย่าง The Feeling ให้เราได้ดูกันเเบบนี้ ในขั้นตอนการทำงาน กระบวนการตกผลึกความคิด บรรยากาศการทำงาน ว่าเป็นอย่างไรเเบบถามมา เล่าไป กันครับ

สวัสดีครับ รบกวนช่วยเเนะนำตัวเองให้พวกเรารู้จักหน่อยครับ

สวัสดีครับ เราชื่อ นัท-ณนัทธ์ มหัทธนศิริ เป็น ผู้กำกับของ The Feeling จบการศึกษาจาก ม.กรุงเทพครับ

ก่อนหน้านี้เคยมีประสบการณ์ หรือ ผ่านตา กับ วัฒนธรรมไอดอล มาก่อนไหมครับ?

มีบ้างครับ เเต่น้อยมาก ส่วนใหญ่จะได้เห็นได้ฟังจากที่เพื่อนเเชร์กันในเฟสบุ๊ค เนื่องจากเราก็ไม่ได้สายฟังเพลงเเนวนี้อยู่เเล้วด้วย

แล้วที่มาที่ไปจุดเริ่มต้นในการได้มากำกับ MV นี้

ก็เริ่มจากทางพี่รันได้ติดต่อมาว่าอยากคุยด้วยเรื่องการทำ MV เพลง ตอนเเรกเรามีการนัดเจอกันก่อน เพื่อมาทำความรู้จักกันไว้ว่าตัวเราเองเป็นเเนวไหน ผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็ได้มีการคุยเรื่องนี้กันจริงจังมากขึ้น เราก็ตื่นเต้นนะสำหรับเพลงนี้ จะได้ทำ MV เพลงไอดอลเป็นครั้งแรก 5555+ พอเสร็จหลังจากการคุยก็ได้ตัวเพลงมาลองฟังพร้อมโจทย์ว่าจะพรีเซนต์เพลงนี้ออกมาอย่างไรต่อไป

แล้วได้ฟังเพลงเก่าๆ ของ Fever ครบทุกเพลงหรือยังครับ?

จริงๆ ก็สารภาพตรงนี้เลยครับว่า มีโอกาสได้ฟังจากการเปิด MV บ้างแบบผ่านๆ เพลงที่ฟังบ่อยสุด ก็คงจะเป็น เพลง Password ครับ ที่น้องๆมานั่งล้อมวงกัน น่ารักดีฮะ

ตอนที่ได้เพลง The Feeling มาฟังครั้งแรกนี่ รู้สึกยังไงบ้างครับ มีไอเดียอะไรในใจบ้าง?

ตอนที่ได้เพลงมาฟังครั้งแรก เราก็มานั่งเเกะวิเคราะห์เนื้อเพลงคร่าวๆ ก็พอจับใจความได้ว่าเพลงนี้เกี่ยวกับการให้กำลังใจ เราก็เลยคิดไอเดียขึ้นมาหลายเเบบเลย ว่าการให้กำลังใจเนี่ย เราสามารถถ่ายทอดออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง

เเล้วออกมาประมานไหนครับ?

ตอนแรกเลยที่คิดออกมา ก็คิดว่าจะให้น้องๆ ไปตามหาลูกเเก้ว เเบบส่งต่อลูกเเก้วกันเปรียบเหมือนการส่งต่อกำลังใจ เเต่สุดท้ายเเล้วไอเดียนี้ก็ตกไป เพราะมีความรู้สึกว่าอาจจะซ้ำ มีคนทำไปแล้ว

ก็เลยได้ไอเดียใหม่มา โดยมีการใช้สตอรี่ไลน์ในการเล่าเรื่อง ด้วยความรู้สึกส่วนตัวนะ เรารู้สึกว่าเพลงนี้ฟังง่าย น่าจะเข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายวัย เราเลยอยากดึงตัวละครหลายๆแบบ เช่น เด็กนักเรียน คนทำงาน หรือคุณพ่อ อะไรประมานนี้มาใส่ ก็เป็นไอเดียรูปเเบบที่เริ่มจริงจังขึ้นอันแรกเลย

แต่พอสุดท้ายที่ได้ออกมาเป็นตัวไฟนอลจริงๆ ก็มีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เหลือตัวละครเเค่ 2 ตัว โดยมีตัวละครนักบัลเลต์เข้ามาเเทนด้วยเหตุผลทางด้านภาพ เเล้วก็เป็นตัวละครผู้ชายที่เป็นพนักงานบริษัทครับ

นับว่าเป็นครั้งเเรกเลยใช่ไหมครับ ที่มีนักเเสดงอื่นที่นอกจากเมมเบอร์เข้ามาเป็นส่วนประกอบในเอ็มวี

ใช่ครับจะเรียกว่าครั้งเเรกเลยก็ได้ พูดได้เลยว่ามีความกดดันนิดๆ ด้วยครับ 555 เเต่สุดท้ายก็ได้คำเเนะนำดีๆ มาเลยผ่านไปด้วยดี

แล้วงานนี้มีการใช้อุปกร์ณถ่ายทำตัวไหนเป็นพิเศษไหมครับ?

เอาจริงๆ เเล้วเเทบไม่มีอะไรพิเศษเลยครับ ถ้าให้นึกก็คงมีเเค่เลนส์แบบ Anamorphic ครับ ที่มาช่วยในเรื่องของมิติภาพ ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น

anamorphic lens คือเลนส์แปลงสัดส่วน ที่ภาพหน้าเลนส์กับหลังเลนส์เป็นคนละสัดส่วนกัน เช่นเอาไปถ่ายวัตถุวงกลม ภาพที่บันทึกได้เป็นวงรี ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในรถถังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จะได้เห็นภาพแนว Landscape กว้างๆ เป็นเลนส์แปลกใหม่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้ที่ต้องการภาพมุมกว้างแบบไม่มี Distortion หรือความโค้งของภาพกับเลนส์ Anamorphic Lens เหมาะสำหรับงานถ่ายที่ต้องการแบบพาโนรามา ให้ภาพกว้างสะใจ

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ เทคโนโลยีการผลิตภาพยนตร์

ใน MV ได้มีการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ไว้บ้างไหมครับ?

มีครับ จะเป็นซิมโบลิคเรื่องสี ก็จะมีการหยอดสีเเดงเอาไว้ตามฉากโต๊ะทำงานครับ

กำกับเอ็มวีไอดอลครั้งเเรกรู้สึกกดดันในเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้างครับ?

คงเป็นของเรื่องเเอร์ไทม์ครับ เราก็ศึกษามาก่อนทำเอ็มวีนี้ว่าเรื่องเเอร์ไทม์กับตัวไอดอลสำคัญนะ ต้องพยามบาลานซ์ให้ดีเเต่พอมีเรื่องสตอรี่ไลน์เข้ามาช่วยก็ลดความกังวลไปได้พอสมควรครับ

ได้มีการวางความเกี่ยวข้องระหว่างตัวเมมเบอร์กับตัวละครประกอบไว้อย่างไรบ้างครับ?

จริงๆ เเล้วเราปูสตอรี่เอาไว้ว่า เมมเบอร์วงฟีเวอร์เนี่ย เป็นเหมือนผู้มาจากนอกโลก 555 เเต่ก็เเล้วเเต่คนจะตีความนะเราอยากให้ฟีลลิ่งของเขาเป็นเเนวผู้สังเกตุการณ์ ที่คอยดูปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวละครประกอบใน MV เเล้ววาร์ปมาให้กำลังใจ โดยที่นักเเสดงในเรื่องก็จะไม่รู้ตัว เหมือนใน MV ก็จะมีการให้ดอกไม้เเทนกำลังใจในตอนที่หลับอยู่ ประมานนั้นครับ

เรื่องโลเคชั่นถ่ายทำเป็นยังไงบ้างครับ ?

คือมันก็ตลกเหมือนกันฮะ ระหว่างที่ไปดูน้องๆ ซ้อมเต้นก็มีการได้คุยเรื่องนี้เหมือนกัน เขาก็บอกเรานะแบบ “พี่รอบนี้หนูขอที่ที่ไม่ร้อนได้ไหม” อะไรประมานนี้ฮะ ซึ่งรอบนี้ทางพี่รันเองก็เสนอมาว่าอยากได้เป็นดาดฟ้าด้วย พอความต้องการทุกอย่างรวมกัน ก็ลงตัวโลเคชั่นที่หาได้ก็เลยสบายขึ้นมาหน่อยมีเเอร์ หลับกันได้สบายเลยครับ ซึ่งตรงนี้น้องๆก็น่าจะชอบมากด้วย

แล้วระยะเวลาถ่าย MV เป็นยังไงบ้างครับ?

รอบนี้ถ้านับรวมๆ ก็ใช้เวลาทั้งหมดประมานวันครึ่งครับ เรานัดน้องกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า และถ่ายเสร็จตอนเที่ยงคืน ถ้าถามว่านานไหมสำหรับเรา มันก็นานนะ เเต่ก็คือไม่ได้นานจนเเบบ ไม่ไหวเเล้วอะไรแบบนี้ครับ

บรรยากาศในกองเป็นไงบ้างครับ?

ทุกคนเต็มที่กับงานมากครับ น้องๆ เอง เวลาว่างก็เล่นสนุกเฮฮากัน พอต้องจริงจังปุ้ปก็ออกมาน่าประทับใจครับ ครั้งนี้ดีหน่อยที่มีครูสอนเต้นมาช่วยดูเวลาถ่าย ก็ช่วยให้เราได้โฟกัสกับมอนิเตอร์มากขึ้น ไม่ต้องคอยมานั่งเสียเวลาเพลย์แบคดูอีกรอบว่าน้องคนนั้นเต้นผิดนะ อะไรแบบนี้ เพราะจริงๆ เราเองก็ไม่รู้ถึงจุดนั้นเหมือนกัน พอมีครูสอนเต้นมาช่วยดูก็ช่วยตรงนี้ได้มากเลย

แล้วประทับใจใครใน Fever เป็นพิเศษไหมครับ?

จริงๆ ก็น่ารักทุกคนนะครับ 555 เเต่ว่าถ้าถามว่าชอบใคร เราชอบ ปาย ครับ รู้สึกว่าหน้าน้องเขามีความสวยที่เป็นเอกลักษณ์ดีครับ

สุดท้ายนี้ให้อยากให้ฝากผลงานเเละเชิญชวนมาดู MV The Feeling หน่อยครับ

เราทุกคนก็ตั้งใจกับงาน MV นี้จริงๆ ครับ อยากให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ก็ต้องขอฝาก The Feeling ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะครับ

ชม FEVER – The Feeling ได้ด้านล่าง

ขอขอบคุณสถานที่
ร้านเฟี้ยววินเทจ ( FEAW VINTAGE ) @ Bangsue Junction Shopping Mall
https://www.instagram.com/Feaw_vintage/

คลิปสัมภาษณ์

]]>
สัมภาษณ์พิเศษกับ 6 สาว “Daifuku” ในงาน Thailand E-Sports Championship 2019 /article/2614?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a1%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%93%e0%b9%8c%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a9%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-6-%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a7-daifuku Wed, 02 Oct 2019 08:12:29 +0000 /?p=2614 สวัสดีกันอีกครั้งนะครับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มีงาน Thailand Esports Championship 2019 จัดขึ้นโดย TESF เพื่อเฟ้นหาทีมเข้าแข่งขันชิงแช้มป์โลกที่ประเทศเกาหลี ในงานก็มีการแข่งขันเกมส์ดังๆ อาทิเช่น DOTA2 / TEKKEN 7 / eSootball PES2020 โดยมีรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยงานนี้ก็อยู่ภายใต้การรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อีกด้วย งานนี้จัดขึ้นที่ลานกิจกรรมชั้น 5 Outlet Zone ห้างสรรพสินค้า MBK Center

โดยในงานก็จะได้พบกับน้องๆ ทั้ง 6 คน จากวง Daifuku ค่าย Cm Cafe ที่มาร่วมโปรโมทเครื่องดื่ม B’lue (บลู) เครื่องดื่มแนวใหม่ สำหรับคนรุ่นใหม่ อีกด้วย โดยทาง IDOLTH.com ก็ได้รับเกียรติสัมภาษณ์สาวๆ ทั้ง 6 คน อีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยครับ

สวัสดีค่ะพวกเราไดฟุกุจาก Cm Cafe ค่ะ


สวัสดีค่ะ เบบี้ไดฟุกุค่ะ


นาโฮะไดฟุกุค่ะ


นาวลิ้มไดฟุกุค่ะ


สวัสดีค่ะ อุ๋มไดฟุกุค่ะ


สวัสดีค่ะ มิ้มไดฟุกุค่ะ


มีมี่ไดฟุกุค่ะ


ได้มาร่วมงานของ B’lue ในวันนี้ มีความรู้สึกยังไงบ้าง ?

นาวลิ้ม : ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีค่ะ ที่ไดฟุกุจะได้ร่วมงานกับตัวโปรดักส์หรือสินค้าอะไรบ้างสักตัวนึงค่ะ ซึ่งตอนนี้ B’lue ก็ได้มอบโอกาสนั้นให้เราได้มาลองทั้ง ถ่ายโฆษณา ทั้งมาร่วมงาน แล้วก็มาร่วมเชียร์พี่ๆ E-Sport ไทย ให้ได้ไป E-Sport โลก รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากเลยค่ะ

แล้วแต่ละคนชอบรสชาติไหนของเครื่องดื่ม B’lue กันบ้าง ?

เบบี้ : ชอบสีนี้เลยค่ะ…สีเขียว

นาโฮะ : หนูชอบสีชมพูค่ะ

นาวลิ้ม : ตอนแรกก็ลองชิมสีส้มไป แล้วก็ไปลองชิมทุกสีเลย สุดท้ายให้สีชมพูที่ 1 ค่ะ

อุ๋ม : หนูก็ลองชิมทุกสีเลยค่ะ อยากจะบอกว่าอร่อยทุกสีเลย แต่ว่าสีที่ชอบที่สุดก็จะเป็นสีเขียวค่ะ

มิ้ม : ส่วนหนูชอบสีชมพูค่ะ

มีมี่ : หนูขอบสีชมพูค่ะ

พูดถึงการแข่งกีฬา E-sport แล้ว ก็ต้องพูดถึงการเล่นเกมส์ เมมเบอร์คนไหนเล่นเกมส์บ้าง แล้วเล่นเกมส์อะไรกันอยู่ ?

พูดถึงการแข่งกีฬา E-sport แล้ว ก็ต้องพูดถึงการเล่นเกมส์ เมมเบอร์คนไหนเล่นเกมส์บ้าง แล้วเล่นเกมส์อะไรกันอยู่ ?

อุ๋ม : โอ้โห เล่นกันทุกคนเลย

เบบี้ : อย่างหนูนะคะก็ชอบเล่นเกม ROV ค่ะ ก็จะเป็นตำแหน่งเมจ

นาโฮะ : ส่วนหนูจะเล่นเกม pubg mobile จะเป็นแบบสายฟาร์มและสายซับพอร์ต

เบบี้ : ส่วนมากกลุ่มเราก็จะเล่นเกมกันหมด

แล้วถ้าต้องแข่งเกมส์กัน ในค่าย Cm Cafe คิดว่าใครจะชนะ ?

มิ้ม : ถ้าใน Cm นะคะ พวกหนูก็คิดว่า ไดฟุกุ ต้องชนะอยู่แล้ว เพราะว่าตอนนี้ทีมเราท๊อปมาก ทั้งแท๊งค์ ทั้งเมจ เครี่ (นาวลิ้ม : แอสซาซิน) ตอนนี้ป่ากำลังฟาร์มใหญ่เลยค่ะ ชนะแน่นอนค่ะ ไดฟุกุค่ะ

ผู้ใหญ่มักจะมองว่าเกมส์เป็นสิ่งไม่ดี แต่ปัจจุบันวงการเกมส์ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ มีมุมมองต่อเกมส์ยังไงกันบ้าง ?

นาวลิ้ม : ค่ะ รู้สึกว่า ถ้าเกิดเราเปิดใจนะคะ เกมส์มีข้อดีหลายอย่างมากๆ ค่ะ เช่น การฝึกสมาธิ การใช้ทักษะ หรือว่าการใช้กระบวนการวางแผนต่างๆ สามารถมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ซึ่งทั้งนี้พวกเราก็อยากจะให้ทางผู้ใหญ่คอยช่วยควบคุม ดูแล แล้วก็ให้กำลังใจน้องๆเยาวชน แล้วก็ผู้ที่เล่นเกมส์ทุกคน เพื่อที่จะได้ต่อยอดความสามารถและทักษะของตัวเอง ทางด้านเกมส์หรือทางด้านต่างๆ ก็ตาม เพราะว่าในสมัยนี้เปิดกว้างมากๆ ไม่เพียงแค่เกมเท่านั้น อาจจะเป็นกีฬาอื่นๆ หรือกิจกรรมอื่นๆ สามารถต่อยอดเป็นทั้งอาชีพ เป็นงานอดิเรก แล้วก็เป็นสิ่งที่ฟื้นฟูสภาพจิตใจเราได้มากขึ้นด้วยค่ะ

แล้วคิดว่า การเป็นนักกีฬา E-sport กับการเป็นไอดอลนั้น มีความเหมือนกันยังไงบ้าง ?

อุ๋ม : สำหรับหนูคือทั้งคู่ต้องใช้ความมุ่งมั่นความพยายาม คือทุกคนมีความฝัน มันก็จะมีอุปสรรคหลายๆ อย่างที่เราจะต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน แต่ว่าไม่ใช่สู้คนเดียวนะคะ เราก็ต้องสู้ไปพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมทีมของเราใช่ไหมค่ะ ก็อยากจะเป็นกำลังใจทุกคนด้วยนะ สู้ๆ

อยากฝากอะไรถึงนักกีฬา​ E-sport ที่กำลังเตรียมตัวจะไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์​ 2019

มีมี่ : พวกหนูก็จะรอเชียร์พวกพี่นะคะ ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้พวกพี่ทุกคนค่ะ ก็พยายามให้เต็มที่นะคะ สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจอยู่ตรงนี้นะ สู้ๆ


นาวลิ้ม
IG : https://www.instagram.com/nowlim.cmcafe/
FB : https://www.facebook.com/nowlim.cmcafe.official/

อุ๋ม
IG : https://www.instagram.com/aum.cmcafe/
FB : https://www.facebook.com/aumcmcafe/

มิ้ม
IG : https://www.instagram.com/mim.cmcafe/
FB : https://www.facebook.com/MimCmcafe/

มีมี่
IG : https://www.instagram.com/meemie.cmcafe/
FB : https://www.facebook.com/officialmeemiecmcafe/

นาโฮะ
IG : https://www.instagram.com/naho.cmcafe/
FB : https://www.facebook.com/NahoCmCafe/

เบบี้
IG : https://www.instagram.com/baby.cmcafe/
FB : https://www.facebook.com/babycmcafe/

ติดตามข่าวสาร และตารางงานต่างๆ ของน้องๆ ได้ที่เพจ Cm Cafe และ Cm Entertainment
https://www.facebook.com/Cmcafeofficial/
https://www.facebook.com/cmentertainments/

]]>
สัมภาษณ์พิเศษกับ “HAPPYTAIL” ไอดอลสาวที่พร้อมจะมอบความสุขที่ยิ่งใหญ่ให้กับทุกคน /article/1462?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a1%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%93%e0%b9%8c%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a9%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-happytail-%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%ad Sat, 14 Sep 2019 20:02:35 +0000 /?p=1462 สวัสดีคุณผู้อ่านของเว็บเรากันอีกครั้ง สำหรับวันนี้เราก็มีบทสัมภาษณ์พิเศษมาฝากกันอีกเช่นเคย โดยเราจะพาไปทำความรู้จักกับกลุ่มไอดอลสาวที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า หางแห่งความสุข เอ้ย! แฮปปี้เทล ต่างหากล่ะ! ซึ่งเราก็ได้ไปพบเจอกับน้องๆ มาที่งาน IDOLS & Cover Dance Matsuri ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา

โดยทาง IDOLTH.com ก็ได้พูดคุยกับน้องๆ ทั้ง 4 คน (ขาดน้องไป 1 คน ที่ไม่ได้มาร่วมงานด้วย) ก็อย่ารอช้า ไปทำความรู้จักกับน้องๆ HAPPYTAIL กันเลย !!!!

สวัสดีค่ะ… พวกเรา HAPPYTAIL ค่ะ


สวัสดีค่ะ คูณยู HAPPYTAIL สีฟ้าค่ะ


สวัสดีค่ะ พิมมี่ HAPPYTAIL สีม่วงค่ะ


สวัสดีค่ะ เอื้อเฟื้อ HAPPYTAIL สีชมพูค่ะ


สวัสดีค่ะ นัชชี่ HAPPYTAIL สีแดงค่ะ


พิมมี่ : ก็จริงๆ พวกเรามีสมาชิกทั้งหมด 5 คนนะคะ วันนี้คนที่ไม่ได้มาก็คือ ” แฟรี่ ” สีเหลืองของพวกเรานั้นเองค่ะ


คอนเซปต์ของวงคืออะไร แล้วสมาชิกแต่ละคนมารวมตัวกันได้ยังไง ?

เอื้อเฟื้อ : สำหรับ “คอนเซปต์” ของวงเรานะคะ คือมาสคอตประจำวงจะเป็นกระต่ายนะคะ เป็นภาพลักษณ์ประจำวง ซึ่งต่อให้กระต่ายเป็นสัตว์ที่มีหางเล็กๆ แต่เราก็สามารถมอบความสุขที่ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้ค่ะ จุดเริ่มต้นตอนแรกเป็นดูโอ้ไอดอลค่ะ (เอื้อเฟื้อ-นัชชี่) แล้วก็ได้ขยับขยายเพิ่มเมมเบอร์ขึ้นจนตอนนี้มีสมาชิกทั้งหมด 5 คนค่ะ

แล้วจากที่เคยเป็นดูโอ้แค่ 2 คน พอกลายมาเป็นไอดอลกรุ๊บแล้วมีความแตกต่างจากเดิมยังไงบ้าง ?

นัชชี่ : เราจะรู้สึกว่าเราได้ทำกิจกรรมกันมากขึ้น แล้วเราได้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น ปกติเราจะอยู่ด้วยกันแค่ 2 คน แต่ทีนี้พอเราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน 5 คน เราก็จะรู้สึกแฮปปี้มากขึ้น เราจะมีความสุขกับกิจกรรมที่หลายๆ อย่างทำร่วมกันได้มากกว่าเดิมค่ะ

มีการแบ่งเวลาในการฝึกซ้อมยังไงบ้าง ฝึกซ้อมกันหนักไหม ?

คูณยู : สำหรับการแบ่งเวลาการฝึกซ้อมนะคะ ส่วนใหญ่เราจะซ้อมกันวันอาทิตย์ค่ะ ก็จะเป็นวันหยุด วันเสาร์วันอาทิตย์ประมาณนี้นะคะ แต่ถ้าเราไม่ได้ซ้อมกันในวันเสาร์อาทิตย์ หนูก็จะใช้เวลาว่างของหนูในการที่จะฝึกซ้อมที่บ้านด้วยตัวเองค่ะ

แล้วนอกจากการเต้นแล้วก็ร้องเพลงแล้ว สมาชิกแต่ละคนมีงานอดิเรกอะไรอีกบ้าง ?

พิมมี่ : ปกติสำหรับพิม ก็จะมีงานอดิเรกเป็นการโคฟเวอร์แดนซ์อยู่แล้วค่ะ แล้วก็จะมีวาดรูปบ้างเป็นบางครั้ง จริงๆ ส่วนตัวพิมชอบไปดูคอนเสิร์ตมากๆ เลยค่ะ

คูณยู : ส่วนของหนูนะคะ ก็จะเป็นการร้องเพลงประสานเสียงของโรงเรียนค่ะ เป็นการแข่งขันต่างๆ ของโรงเรียน ที่ทางโรงเรียนได้มอบหมายให้เราไปแข่งนะคะ จริงๆ หนูเป็นคนชอบวิ่งออกกำลังกายแบบ 10 กิโล อะไรประมาณนี้ค่ะ ล่าสุดก็ได้เข้าร่วมมินิมาราธอนแบบฮาฟไปก็ประมาณ 20 กิโลค่ะ

เอื้อเฟื้อ : สำหรับเอื้อนะคะ จริงๆแล้วเอื้อชอบแต่งเพลงค่ะ เป็นเนื้อเพลงแต่งจากเพลงภาษาอื่นๆ ให้เป็นภาษาไทย แต่ว่าช่วงนี้ก็ยังไม่มีโอกาสที่แต่งออกมาจนเสร็จแล้วเอามาอัพลงสักที แต่ก็แต่งไปเรื่อยๆ ค่ะแค่ยังไม่ได้เอาออกมาให้ทุกๆคนได้ดูค่ะ

นัชชี่ : งานอดิเรกก็จะเป็นการเล่นเกมส์นะคะ ก็จะเล่นหลายแนว ส่วนใหญ่ก็จะเป็น FPS นะคะ แล้วก็พวก Battle Royal อะไรแบบนี้ค่ะ แล้วอีกอย่างที่ชอบทำมากๆ คือการพากย์เสียงค่ะ ก็จะพากย์เป็นตัวละครต่างๆ จริงๆ จะเน้นพากย์เสียงตัวละครภาษาญี่ปุ่นมากกว่าภาษาไทยด้วยค่ะ

ล่าสุด เห็นว่าเพิ่งเปิดตัวเพลงใหม่ไป อยากให้พูดถึงเพลงนี้หน่อย

นัชชี่ : ซิงเกิ้ลของพวกเรา เพลง “Love Signal” หรือชื่อภาษาไทยว่า “สัญญาณแห่งรัก” ก็เป็นซิงเกิลที่ 2 ของพวกเราค่ะ ก็จะบอกเล่าถึงความรักที่เราส่งไปแล้วว่าเรากำลังที่จะรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเมื่อไหร่สิ่งที่เราส่งไปเนี่ยจะถึงเขาสักทีแล้วเขาจะตอบกลับมาเมื่อไหร่

แล้วสมาชิกแต่ละคน ชอบเพลงท่อนไหนกันบ้าง

นัชชี่ : สำหรับเราก็จะชอบท่อนที่ร้องว่า “อยากจะรู้เธอคิดอย่างไร” ค่ะ เพราะว่าเป็นท่อนที่เราร้องแล้วก็เหมือนเป็นจุดไครแม็กซ์ของเพลงค่ะ ว่ามันเหมือนสิ่งที่เราพยายามจะบอกมาทั้งเพลงเนี่ย คือท่อนเนี่ยคือที่สุดแล้วที่แบบเราต้องถามเขาให้รู้แล้ว อะไรแบบเนี่ยค่ะ

เอื้อเฟื้อ : ก็สำหรับเอื้อนะคะ เอื้อชอบท่อนของตัวเองที่ร้องว่า “รู้บ้างไหมเธอทำฉันหวั่นไหว” ค่ะ มันรู้สึกว่าเป็นเนื้อเพลงที่มีทั้งความเขิล แต่ว่าเราก็อยากจะบอกเขาในครั้งเดียวกัน เป็นหลายอารมณ์ในคำๆ เดียวค่ะ

พิมมี่ : สำหรับพิมนะคะ ก็ชอบเพลงตรงท่อนที่ร้องว่า “คำว่ารักที่ฉันส่งไป” ค่ะ ก็เป็นท่อนที่พิมร้องด้วยใช่ไหมคะ ก็คือความหมายตรงๆ ของ Love Signal ก็คือ คำว่ารักที่ฉันส่งให้เธอไป ชอบเป็นพิเศษเลยค่ะ

คูณยู : ส่วนของหนูนะคะ ท่อนที่หนูชอบก็เป็นท่อนที่หนูร้องเองก็คือ “เธอคนเดียวที่มาทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้มันหมายความว่าไงห๊ะ” ก็คือหมายถึงว่า อยากจะให้เขารู้ว่าแบบ เธอเป็นคนๆ เดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกแบบเนี่ย มันยังไงอ่ะ เราอยากได้คำตอบที่ชัดเจนจากแบบความรู้สึกของเราแล้วก็ความรู้สึกของคนๆ นั้นค่ะ

เมื่อเทียบกับเพลงซิงเกิ้ลแรกแล้ว คิดว่าเพลงนี้มีการพัฒนาอะไรที่เพิ่มขึ้นมาบ้าง ?

พิมมี่ : ถ้าเทียบกับซิงเกิ้ลที่หนึ่ง “ใจลอย” นะคะ “Love Signal” ก็จะมีอารมณ์ฟิลที่แบบว่าโตขึ้น ดนตรีของเราก็มีการพัฒนาขึ้น พัฒนาขึ้นทั้งด้านดนตรีแล้วก็เนื้อร้อง ท่าเต้นก้เช่นกัน จาก ใจลอย ที่เป็นแบบว่าเราก็เต้นท่าพื้นฐาน สำหรับ Love Signal มันจะมีท่าที่ Advance มากขึ้น กับการเปลี่ยนบล๊อกกิ้งก็มีมากขึ้น Love Signal จะแตกต่างกับ ใจลอย ที่ว่าเราได้เพิ่มท่อนแร็ป ก็มีสเน่ห์มากขึ้นนั้นเองค่ะ

เห็นว่าได้ “ปลื้ม” มาร่วมแสดงใน MV ด้วย ตอนทำงานด้วยกันเป็นยังไงบ้าง ? อยากให้เล่าให้ฟังหน่อย

เอื้อเฟื้อ : ก็สำหรับ “ปลื้ม” นะคะ ก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากๆ คนนึงเลยคะ แล้วก็คือมันจะมีช่วงเวลาที่ ปลื้ม ยังไม่ได้เข้าฉาก แบบว่าจะต้องรอนานมากๆ ประมาณเกือบครึ่งวัน แต่ว่า ปลื้ม ก็ไม่ได้บ่นอะไรเลย แล้วก็เต็มที่กับงานมากๆ เป็นคนที่เงียบๆ แต่ก็เป็นคนที่นิสัยน่ารักคนนึงเลยค่ะ

แล้วทางวง HAPPYTAIL มีกิจกรรมอะไรที่ แฟนๆ สามารถมีส่วนร่วมได้บ้าง ?

พิมมี่ : กิจกรรมในตอนนี้นะคะ ตอนนี้เราก็กำลังฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ ใช่ไหมคะ แต่ว่าด้านโซเชียลมีเดียของพวกเราก็ยังมีการอัพเดททุกวัน แล้วก็สามารถติดตาม Vlog ต่างๆ ของพวกเราได้ที่ YouTube ของพวกเรานั้นเองนะคะ ซึ่ง น้องยู ก็พึ่งจะทำ Vlog ที่เกี่ยวกับเบื้องหลัง MV ไว้ด้วยนะคะ ยังไงก็อย่าลืมไปติดตามดูได้นะคะ สำหรับผลงานต่างๆ ของพวกเราก็ในอีกไม่นานก็จะมีเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อยๆ ค่ะ

แล้วในอนาคตสามารถมาพบเจอ HAPPYTAIL ได้ที่ไหนบ้าง จะมีกิจกรรมบ่อยมั้ย ?

เอื้อเฟื้อ : แฟนๆ ก็สามารถมาพบเจอเราได้ตามตารางานต่างๆที่ประกาศในหน้าเพจ Facebook Official ของพวกเราค่ะ พวกเราก็จะมีงานที่จะมาขึ้นโชว์กันเรื่อยๆ เดือนนึงก็ประมาณ 1 ถึง 2 ครั้งหรืออาจจะ 3 ครั้งค่ะ ยังไงก็สามารถมาพูดคุยแล้วก็มาเซกิกับพวกเราได้นะคะ แล้วก็ขอแอบสปอยนิดนึงว่า เราอาจจะมีแฟนมีตเร็วๆ นี้ให้ทุกๆคนได้มาพบปะพวกเรากันค่ะ

สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ และถ้าสนใจสามารถติดตามผลงานของวงได้ที่ช่องทางไหนบ้าง

นัชชี่ : วง HAPPYTALE ก็จะมีช่องทางติดต่อทั้ง IG แล้วก็ Facebook Fanpage อย่างของ Facebook ก็จะเป็น HAPPYTALE ของ IG ก็จะเป็น HAPPYTALE แล้วก็จะมีช่องทางการติดตามของเมมเบอร์คนอื่นๆแยกกันไปด้วย เป็น Facebook กับ IG เหมือนกัน IG ก็จะเป็นชื่อเมมเบอร์แล้วก็ดอท HAPPYTALE ค่ะ Facebook ก็จะเป็นชื่อเมมเบอร์แล้วก็ HAPPYTALE ค่ะ

Facebook : https://www.facebook.com/HappyTailOfficial/

Instagram : https://www.instagram.com/happytailofficial/

คูณยู : https://www.instagram.com/koonu.happytail/

พิมมี่ : https://www.instagram.com/pimmy.happytail/

เอื้อเฟื้อ : https://www.instagram.com/aurfuar.happytail/

นัชชี่ : https://www.instagram.com/nutchy.happytail/

แฟร์รี่ : https://www.instagram.com/fairy.happytail/


ผลงานของน้องๆ HAPPYTAIL

]]>
มาทำความรู้จักกับสาวน้อยเสียงดี “น้องวาวา ญานิศา” ศิลปินเดี่ยวจากค่าย ReSweet Music /article/1643?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%89 Wed, 28 Aug 2019 21:02:06 +0000 /?p=1643

สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน ในวันนี้เราก็ได้รับเกียรติจาก “น้องวาวา” ศิลปินเดี่ยวจากค่าย ReSweet Music Label ที่มีความน่ารัก สดใส แถมยังมีพลังเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และน่าจับตามองในขณะนี้เลยทีเดียว

โดยทีมงาน IDOLTH ก็ได้บุกไปหาน้องวาวากันถึงที่งาน IDOLS & Cover Dance Matsuri ที่จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค ในวันที่ 24-25 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ถ้าพร้อมกันแล้ว เราก็ไปทำความรู้จักกับน้องวาวากันเลย….

สวัสดีครับ อยากให้แนะนำตัวหน่อยครับ

สวัสดีค่ะ วาวา ReSweet นะคะ อายุ 18 ปี ตอนนี้ เรียนอยู่ชั้น ม.6 ค่ะ

ชื่อ “วาวา” มีที่มาจากไหน แล้วมีความหมายว่าอะไรเหรอครับ ?

ที่มาของชื่อวาวาก็ ตอนเด็กๆ พอดีว่า วาเป็นคนที่ชอบนอนกางแขน แล้วคุณยายมาเห็นว่าชอบนอนกางแขนสองข้าง ก็เลยเรียก “วาวา” ค่ะ

มีฉายา หรือชื่อเรียกอย่างอื่น ที่เพื่อนๆ หรือแฟนคลับเรียกบ้างไหม ?

มีเยอะมากเลยค่ะ ตอนอยู่ที่โรงเรียนวาจะเป็นคนแบบว่า เด๋อๆแล้วก็มึนๆ หน่อย เพื่อนก็จะเรียกแบบว่า เอ๋อ หรือไม่ก็เรียกว่า ซาลาเปา เพราะว่าแบบ แก้มวาเหมือนซาลาเปาค่ะ

อยากให้ช่วยอธิบายคอนเซ็บในฐานะศิลปินเดี่ยวของตัวเอง

ศิลปินเดี่ยวในแบบที่วาคิดนะคะ ก็เป็นศิลปินที่เหมือนว่าโซโลเดี่ยวอ่ะค่ะ แล้วเราก็สามารถแต่งเพลง แล้วก็ทำเพลงออกมาให้ผู้ชม ผู้ฟังมีความสุขได้อ่ะค่ะ

เป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกของค่าย ReSweet มีความรู้สึกกดดันบ้างไหมครับ ?

ไม่นะคะ วารู้สึกว่า วามีความสุขมากกว่าค่ะ เพราะว่าวาได้ร่วมงานกับคนในค่ายค่ะ ซึ่งคนในค่ายทุกคนก็น่ารักกับวามากๆ เลยค่ะ

แล้วคิดว่าอะไรคือเหตุผลในการตัดสินใจมาเป็น “วาวา ReSweetครับ ?

ก็น่าจะเป็นเพราะว่า พี่ๆ ในค่ายอ่ะค่ะ อันดับแรกก็เป็นพี่มีนเลยค่ะ (โปรดิวเซอร์ของค่าย) ก็ตอนที่พี่เขามาคุยกับวา วาก็รู้สึกว่า วาอยากจะร่วมงานกับพี่เขา เพราะแบบพี่เขารู้สึกว่าเข้าใจเรามากอ่ะค่ะ ไม่ใช่แค่แบบว่าการที่เราทำงานร่วมกัน เป็นศิลปิน เป็นโปรดิวเซอร์ แต่ว่าเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันมากกว่าค่ะ

ร้องเพลงมานานแล้วหรือยัง ? เคยไปประกวดที่ไหนมาบ้าง ?

ร้องเพลงมานานไหม ก็นานมากเลยค่ะ ตั้งแต่… จริงๆ วาเริ่มร้องเพลงตั้งแต่ ป.2 เลยค่ะ แล้วก็เริ่มมาประกวดจริงจังก็ ป.6 ค่ะ ก็เริ่มร้องมาเรื่อยๆ จนแบบว่า พี่มีนมาชวนเข้าค่าย ReSweet นี่เหละค่ะ ส่วนการประกวดก็เคยไปประกวดของ To Be Number One ค่ะ แล้วก็เมื่อปีที่แล้วก็ไปประกวดเวที Hotwave Music Awards 2018 ด้วยค่ะ

แล้วนอกจากการร้องเพลง น้องวาวามีงานอดิเรกอะไรอีกบ้างครับ ?

ก็จะมีแต่งเพลงค่ะ เล่นกีต้าร์ แล้วก็อ่านหนังสือนิยายค่ะ

อาหารที่ชอบล่ะ ชอบทานอะไรบ้างครับ ?

โห อาหารที่วาชอบกินแบบว่าเยอะมากเลยค่ะ เพราะว่า วาชอบกิน ล่าสุดที่กินไปก็จะเป็น ราดหน้าใช่ไหมค่ะ แล้วก็จะมี ผัดกะเพรา แล้วก็ข้าวไข่เจียวนี่ก็ของโปรดเลยค่ะ

ให้เลือกระหว่างทะเลกับภูเขา ชอบอะไรมากกว่ากัน ?

ชอบทะเลค่ะ เพราะว่าชอบเล่นน้ำค่ะ

แล้ววาวาอยากไปเที่ยวที่ไหน ?

วาอยากไปเที่ยวที่เกาหลีอีกครั้งนึงค่ะ เพราะว่า วาเคยไปแล้วก็รู้สึกว่าอยากจะกลับไปที่นั้นอีกรอบนึงค่ะ

หมายถึงไปเที่ยวทะเลที่เกาหลี ?

ค่ะ เพราะว่าวาไปปูซานค่ะ ก็จะมีแบบทะเลของที่ปูซาน สวยมากเลยค่ะ

เวลาที่ร้องเพลงบนเวที อะไรคือสิ่งที่น้องวาวาอยากถ่ายทอดไปยังคนฟังครับ ?

เวลาที่วาร้องเพลงใช่ไหมค่ะ สิ่งแรกเลยที่วาอยากให้คนฟังรู้สึกก็คือ วาอยากให้คนฟังมีความสุขกับเพลงที่วาร้องค่ะ แล้วก็อยากที่จะสื่อความรู้สึกที่วาวาร้องออกไปให้คนฟังได้รู้ค่ะ

รู้สึกตื่นเต้นไหมเวลาขึ้นเวทีแต่ละครั้ง แล้วมีวิธีลดความตื่นเต้นยังไงบ้าง ?

ตื่นเต้นนะคะ แต่ว่าวิธีลดความตื่นเต้นของวาก็จะเหมือนแบบว่า… จะทำสมาธิกับตัวเองก่อนค่ะ ก็จะหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกเบาๆ ไม่ก็หลับตาลงสัก 3 วิ อะไรแบบนี้ค่ะ แล้วก็ทบทวนสิ่งที่วาซ้อมมาก่อนขึ้นเวทีค่ะ

ฝึกซ้อมหนักมั้ย ? มีการแบ่งเวลาในการฝึกซ้อมยังไงบ้าง ?

วาก็ซ้อมหนักมากนะคะ เพราะว่ามีเรียนด้วยแล้วก็ต้องแบ่งเวลาในการซ้อมด้วยค่ะ อาจจะแบ่งว่าวันนี้เป็นวันซ้อมนะ แล้วก็วันไหนเป็นวันที่วาเรียนหรือทำการบ้าน วาก็จะรีบทำให้เสร็จค่ะ

ในเร็วๆ นี้จะมีผลงานอะไรให้แฟนๆ ได้ติดตามบ้าง ?

มีแน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องขอเก็บไว้ก่อนว่าจะปล่อยเพลงเมื่อไหร่นะคะ แต่ว่ายังไงก็ฝากติดตามวาวาได้นะคะที่เพจ Resweet Music เลยค่ะ

สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ

วาก็อยากจะให้ทุกๆ คนนะคะ เป็นกำลังใจให้ วาวา ด้วยนะคะ แล้วก็ที่สำคัญเลยก็คือ ให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ นะคะ อยู่กับ วาวา ไปตลอดนะคะ แล้วเพลงใหม่รับรองว่า วาจะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดเลยค่ะ


และนี่ก็คือบทสัมภาษณ์พิเศษที่น่าจะทำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักสาวน้อยเสียงดี “วาวา ญานิศา” ได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผลงานของน้องวาวานั้น นอกจากการหยิบเพลงดังหลายๆ เพลงมาโควฟเวอร์ในแบบฉบับของตัวเองแล้ว ยังมีผลงานเพลงที่น้องวาวาได้แต่งเนื้อเพลงด้วยตัวเองในชื่อเพลง “อย่ามาให้ความหวัง”

นอกจากนี้ วาวา ยังมี IG ให้สามารถไปติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของน้องได้ที่ https://www.instagram.com/wawa_yani/

]]>