กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทสัมภาษณ์ที่เราจะพาไปเจาะลึก รู้รายละเอียดของวงไอดอลที่น่าสนใจ ถ้าใครติดตามไอดอลหลายๆ วงมาก่อน ก็จะทราบว่า แอพพลิเคชั่น Vibie ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไอดอลกับเหล่าแฟนคลับ ที่ไอดอลสามารถมาไลฟ์เพื่อพูดคุยกับแฟนๆ ได้ ซึ่งก็มีไอดอลหลายวงที่ทำการ Live อยู่บนแพลตฟอร์มของ Vibie เช่นกัน โดยรอบนี้เราได้โอกาสบุกไปถึงฐานทัพของ Vibie เพื่อพูดคุยกับ 5 สาว วงไอดอล Magesta (มาเจสต้า) ซึ่งเป็นไอดอลน้องใหม่จากค่ายเดียวกับผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นไลฟ์สตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Vibie นี่นั้นเอง
โดยนอกจากเราจะได้สัมภาษณ์น้องๆ ทั้ง 5 คนแล้ว เรายังได้พูดคุยกับ “คุณชิน” ผู้จัดการของวง Magesta ที่จะมาช่วยเราตอบคำถามสำคัญหลายๆ คำถามอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปเริ่มกันเลย!
จุดเริ่มต้นของวง
คุณชิน : จุดเริ่มต้นก็มาจากบริษัทของเรา Donut Bangkok ได้ทำแอพพลิเคชั่น Vibie ขึ้นมา และก็ได้มีการเชิญชวนศิลปินไอดอลวงต่างๆ เข้ามาไลฟ์ในแอพของเรา ทำให้เราได้เห็นถึงกระแส การตอบรับที่ดีของไอดอลเกิร์ลกรุ๊บในบ้านเรา เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เราอยากลองเข้ามาในตลาดนี้ดูบ้าง เลยเปิดออดิชั่นขึ้นประมาณช่วงเดือนตุลาคม 2019 ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ในการคัดเลือกผู้สมัครกว่า 500 คน จนได้เป็นน้องๆ ทั้ง 5 คนนี้มาร่วมงานกับเรา
ทำไมถึงได้เป็นน้องๆ ทั้ง 5 คนนี้
คุณชิน : จุดมุ่งหมายของวงในตอนแรก คือเราอยากจะได้เด็กที่อยู่ในช่วงวัยมหาวิทยาลัย คือเรารู้สึกว่าเด็กในช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่มีความเป็นสาว มีเสน่ห์ที่สุด และเราก็คัดเลือกเด็กที่มีบุคลิกโดดเด่นเฉพาะตัวของตัวเอง ซึ่งน้องๆ ทั้ง 5 คนที่เราเลือกมาก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน เปรียบเหมือนมีความประกาย เป็นดาวในตัวเอง
ทำไมถึงเป็นชื่อ Magesta ทำไมต้องเป็นชื่อนี้
คุณชิน : Magesta มาจากการผสมกันของคำว่า Magic กับ Star เพื่อให้เป็นวงที่จะสะกดใจผู้คนราวกับใช้เวทมนตร์ และส่องประกายให้เหมือนดวงดาว เราอยากให้ไอดอลของเราเป็นเหมือนเพื่อนที่จะโดดเด่นอยู่ในความทรงจำของทุกคน เรารู้สึกว่าการที่ใครบางคนติดอยู่ในความทรงจำของเราได้ มันเหมือนกับมีเวทย์มนต์มาร่ายใส่เราอย่างไรอย่างนั้น Mood โดยรวมของวงจะเป็นมู้ดสดใส สนุกสนาน เหมือนอยู่ในปาร์ตี้ มีความระยิบระยับสะกดสายตาของทุกคนในงานได้เป็นอย่างดี
แล้วแนวเพลงของ Magesta เป็นยังไง มีรสชาติแบบไหน ?
คุณชิน : เราอยากให้เป็นสไตล์ T-Pop ที่มีการผสมผสานกันด้วยรูปแบบเสียงอิเล็กโทรป๊อป ที่มีความเรโทรอยู่ และก็มีการผสมความเป็น Hip Hop ลงไปในท่าเต้นบางพาร์ทนิดหน่อย แต่จุดมุ่งหมายของเราคืออยากให้ ฟังง่าย ติดหูง่าย และท่าเต้นที่เป็นสากล
เฟย์ : ส่วนรสชาติคิดว่าเหมือนกินลูกอมผลไม้แบบหวานซ่อนเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่น
นัตตี้ : หวานแบบเป๊าะแป๊ะๆ ในปาก เหมือนลูกอมเป๊าะแป๊ะ
เฟย์ : ตื่นเต้นแล้วก็รู้สึกดี
แอมมี่ : ผลลัพธ์คือมันอร่อยค่ะ
น้องๆ ซ้อมกันมานานหรือยัง ?
คุณชิน : น้องๆ ซ้อมร่วมกันมา 1 ปี เต็มๆ ครับ โดยเฉลี่ยแล้ว สัปดาห์นึงก็จะมีคลาสร้องกับเต้นรวมกัน ก็ประมาณ 20-25 ชั่วโมง
ทำไมถึงตัดสินใจมาสมัครออดิชั่นเป็น Magesta
ฮานิ : ในทีแรกเกิดจากการที่พี่ชินทักมาให้ลองมาออดิชั่นดู ซึ่งหนูก็ปฏิเสธไป แต่หลังจากที่ได้กลับไปปรึกษาแม่อีกที แม่ก็ถามหนูกลับว่า มันคือความฝันของหนูตั้งแต่เด็กไม่ใช่เหรอ? กับการที่จะได้เป็นดาราศิลปิน หนูก็เลยคิดว่าจะลองทำตรงนี้เพื่อแม่ และก็เพื่อความฝันของตัวหนูเองด้วยค่ะ
เฟย์ : หนูชื่นชอบการร้องการเต้นมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว จริงๆ ก็มีเคยไปออดิชั่นรายการอื่นมาเหมือนกัน และพอทาง Vibie เปิดรับสมัคร เพื่อนๆ ก็แนะนำให้มาลองออดิชั่นดู ตอนที่มาออดิชั่นของที่นี่ตอนแรกก็รู้สึกงงๆ แต่พอผ่านออดิชั่น ได้รับเลือกเป็นเมมเบอร์ ได้ฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนๆ ตัวเองได้พัฒนาไปมากกว่าเดิมก็รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจมาออดิชั่นค่ะ
แก้ว : หนูก็เห็นมาจากการประกาศรับสมัคร Vibie IDOL ในเฟซบุ๊ค ทีแรกหนูไม่ได้ตั้งใจมาสมัครนะคะ ตั้งใจจะส่งต่อให้เพื่อนอีกคนที่ร้องเพลงเก่ง ให้มาลองสมัคร แต่พอเพื่อนได้ดูรายละเอียดเพื่อนก็บอกหนูกลับมาว่า “เราอายุเกินแล้ว แก้วลองไปสมัครดูสิ” หนูก็แบบเอาแล้วไง คือหนูไม่เคยเรียนเต้น ไม่เคยเรียนร้องเพลงมาก่อน แต่หนูก็ชอบพวก K-Pop อะไรพวกนี้อยู่ ก็เลยรู้สึกว่างั้นมาลองซักหน่อยละกัน พอตัดสินใจได้ก็เลยรีบโทรหารุ่นพี่ที่เต้นเก่งๆ ให้เขาช่วยสอนให้หน่อย เพื่อที่จะได้เอามาออดิชั่น สุดท้ายก็ผ่านเข้ามาเป็น Magesta ค่ะ
แอมมี่ : หนูเป็นคนชอบทำกิจกรรม ชอบในเรื่องการร้องเพลงอยู่แล้ว แต่ส่วนมากจะชอบร้องเพลงคนเดียวมากกว่า คุณแม่ก็มักจะถามหนูเสมอว่าสนใจไปลองเรียนดูไหม แล้วคุณแม่ก็ชอบบอกให้หนูขึ้นไปร้องเพลงตามงานต่างๆ ซึ่งหนูก็จะบ่ายเบี่ยงอยู่เสมอ มันรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองซักเท่าไหร่ แต่พอมีโอกาสตรงนี้คุณแม่ก็เลยยุให้มาลองออดิชั่นดู ตอนที่มาออดิชั่นหนูก็คิดว่าคงไม่ผ่านหรอก คือหนูอะเต้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หนูถามกรรมการว่า หนูขอเต้นหลีดได้ไหม เพราะหนูเป็นหลีดที่คณะ แต่เค้าก็บอกว่าไม่เอา! หนูก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่ร้องเพลงอย่างเดียว เพราะหนูเต้นไม่ได้เลย แต่หลังจากนั้นหนูก็พยายามฝึกซ้อมจนค่อยๆ เต้นได้ขึ้นมาบ้างค่ะ
นัตตี้ : หนูก็เห็นมาจากโพสประกาศในเฟซบุ๊คเหมือนกัน ตอนที่หนูสมัครมา หนูก็ไม่คิดว่าหนูจะได้ เพราะแอพเขามีแต่คนสวยๆ เยอะมาก แบบเคยเห็นคนที่มาไลฟ์สดก็มีแต่คนน่ารักๆ ทั้งนั้น ก็คงคิดว่าเราคงไม่ติดหรอก แต่สุดท้ายพี่ชินเขาก็เรียกเข้ามาออดิชั่น ซึ่งหนูก็ถามพี่เค้าตรงๆ เลยว่า “พี่คะ หนูมีโอกาสที่จะได้ไหมคะ?” พี่เขาก็ตอบมาว่า “อืม พี่ชอบนะ แต่เดี๋ยวค่อยมาดูกัน!” หนูกลับบ้านมาก็คิดว่าคงจะไม่ได้แล้วล่ะ คือหนูไม่ได้เป็นคนที่ร้องเก่ง เต้นเก่งเลย หนูเป็นคนที่ชอบ Cover Dance มาตั้งแต่มัธยม ก็จะเต้น Cover Dance ที่โรงเรียนกับชมรม แต่คือหนูไม่เคยเรียนเต้นมาก่อนเลยนะ
ทั้ง 5 คนรู้จักกันมาก่อนมั้ย? เคยเป็น VJ ของ Vibie มาก่อนหรือเปล่า?
เฟย์ : ไม่เลยค่ะ อย่างหนูคือไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Vibie คืออะไร บริษัทนี้เขาทำอะไรมาก่อน
ฮานิ : หนูก็รู้มาบ้าง ว่า Vibie เป็นแอพพลิเคชั่น Live แต่ก็ไม่เคยไลฟ์มาก่อนเหมือนกันค่ะ
หลังจากได้เข้ามาฝึกซ้อม คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการฝึกซ้อม
ฮานิ : สำหรับหนูคิดว่าเป็นเรื่องของการแสดงอารมณ์ เรื่องของการส่ง Feeling ไปยังคนดู
เฟย์ : คือวงเราให้ความสำคัญมากๆ กับการให้ความสุขกับคนดู และส่งความรู้สึกออกไปจริงๆ ถึงแม้เราจะเต้นได้ดีแค่ไหน แต่ถ้าเราส่งความรู้สึกไปถึงคนดูให้เขามีความสุขไม่ได้ แบบนี้ก็ถือว่าไม่ผ่าน คือไม่ได้เลย
แก้ว : ครูสอนก็จะเน้นย้ำเสมอว่าแบบเราต้องรู้สึกจริงๆ เมื่อขึ้นแสดงบนเวทีว่าเรา Happy เพื่อที่เราจะได้ส่งต่อความสุขนั้นไปถึงคนดูได้ ไม่ว่าจะเป็นความหมายของเพลง อารมณ์ต่างๆ
นัตตี้ : มันก็จะต่างจากการเต้นเพลง Cover Dance ตรงที่อันนี้เป็นเพลงของเราเอง เรารักมัน เข้าใจมัน เราก็จะต้องสื่อความหมาย และเข้าถึงอารมณ์ของเพลงตรงนี้ให้ดีที่สุดเพื่อส่งความรู้สึกต่อไปถึงแฟนๆ ให้ได้ค่ะ
แล้วมีการตัดสินใจยังไงเกี่ยวกับระยะเวลาในการเดบิ้วท์
คุณชิน : จริงๆ เราจะมีการประเมินน้องๆ ทุกๆ 3 เดือน เพื่อดูความพร้อมของน้องๆ ทุกคน ทั้งการร้อง การเต้น เพื่อดูว่าน้องๆ พร้อมหรือยัง ซึ่งถ้ายังไม่ได้มาตรฐานที่เราวางเอาไว้ เราก็จะบวกไปอีก 3 เดือน ซ้อมหนักขึ้นไปอีก จนกว่าจะได้มาตรฐานตามที่เราต้องการ ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องนี้พอสมควรครับ
งานอดิเรกของแต่ละคน ทำอะไรกันบ้าง?
ฮานิ : หนูชอบดูการ์ตูน ชอบอ่านการ์ตูน ชอบวาดรูป แต่ที่ชอบเลยก็คือการหยิบ iPad มานั่งเขียนนิยาย
เฟย์ : หนูจะเป็นคนที่ไม่มีงานอดิเรก คือชอบที่จะหางานทำ แบบช่วงที่ไม่ต้องฝึกงาน หนูก็จะไปหาที่ฝึกงาน อะไรแบบนี้ค่ะ ถ้าเป็นงานอดิเรกจริงๆ ก็คงเป็นการพักผ่อนจริงๆ
แก้ว : ชอบเล่นกีต้าร์ ดูหนังบ้าง แล้วก็ชอบชวนเพื่อนเล่นเกมส์ แต่ถ้ามีวันหยุดหลายวันหน่อย ก็จะชอบชวนเพื่อนไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน
แอมมี่ : ถ้าอยู่บ้านก็จะชอบดูทีวี แล้วก็หาอะไรหวานๆ กิน แล้วก็เป็นคนชอบเล่นกับสัตว์ บางทีก็เล่นกับมันได้เป็นชั่วโมงเลย
นัตตี้ : หนูชอบดูรายการตลกค่ะ รายการที่ชอบดูมากที่สุดคือ Running Man แบบเรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธ์แท้เลยก็ว่าได้ แต่ถ้าไม่ได้ดูก็จะเล่นเกมส์กับแอมมี่ค่ะ
คอนเซปต์วง คือ Magic + Star ตอนนี้ ทุกคนมีเวทมนต์ประจำตัวหรือเปล่า …ถ้ายังไม่มี
คิดว่า อยากมีเวทมนตร์อะไร
ฮานิ : เวทมนตร์ของหนู .. รู้จักคนที่ชื่อ โคราซอน ในวันพีชมั้ยคะ ที่กินผล nagi nagi แล้วจะปิดทุกเสียงไม่ให้เข้ามา มันไม่เชิงเป็นเวทมนตร์ แต่หนูอยากมีพลังแบบนั้น (เอาไว้กันเฟย์ได้ด้วย) ไม่ก็มีเวทมนตร์บาเรีย ไม่ให้ใครเข้ามารบกวน
แก้ว : พลังฮีล ใครป่วย ใครเป็นอะไรก็สามารถฮีลให้ดีเหมือนเดิมได้ แบบถ้าตัวเองป่วยก็สามารถฮีลตัวเองได้ คนเราไม่ป่วยเป็นลาภอันประเสริฐค่ะ
แอมมี่ : อยากได้เวทมนตร์เกี่ยวกับสัตว์ แบบคุยกับสัตว์ได้
เฟย์ : แบบเรียกสัตว์ออกมาได้งี้ปะ แอมมี่ชอบสัตว์มากเลยค่ะ
แอมมี่ :
เรียกสัตว์ออกมาได้ เข้ามาหาได้ ไปถึงทำให้สัตว์ร้องเพลงเราได้ แบบนกร้อง baby
please ออกมา
นัตตี้ : อยากได้กุญแจที่เปิดประตูที่ไหนก็ได้ แบบใน Locke and key แบบอยากพาตัวเองไปได้หลายๆ ที่
เฟย์ : เวทมนตร์ที่สื่อสารกับคนได้ แบบมองเห็นความรู้สึกอีกฝ่าย ผ่านสีก็ได้ แบบ อยากรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายจะได้รู้ว่าจะต้องเข้าหาเขายังไง สื่อสารกับเขายังไง
แอมมี่ : แบบรู้ว่ามู้ดเขาเป็นแบบไหนตอนคุยด้วย
เฟย์ : ใช่ อยากรู้ว่ามู้ดเขาเป็นยังไงแต่ไม่อยากอ่านใจได้
คิดว่าโมเมนต์ตอนกำลังทำอะไรอยู่โมเมนต์ไหน สามารถสะกดใจให้คนหลงใหลได้
แอมมี่ : ตอนเล่นๆกับเพื่อน ตอนอยู่กับเพื่อน พออยู่กับเพื่อนจะมีความเป็นตัวเองมันจะมีความธรรมชาติ สามารถตลกออกมาได้เลย ไม่ต้องคีปลุคมาก
แก้ว : อืมม ตอนเต้นแล้วเต้นเพลงที่ชอบแล้วเต้นได้ เป็นเพลงที่เราอินไปกับมัน เราว่าเรามีเสน่ห์ตอนนั้น
เฟย์ : ตอนที่ตั้งใจทำบางอย่างมากๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เชี่ยวชาญแล้วทำอะไรได้ดี เช่น สอนพิเศษน้อง ติวหนังสือกับเพื่อน เวลาทำงาน เวลาเต้น เวลาเราแสดงความตั้งใจออกมานี่แหละ เรารู้สึกว่าเราชอบตัวเองตอนนั้น
ฮานิ : กำลังเขิน แต่ก็กล้ายิ้มแล้วก็สบตาฝ่ายตรงข้าม เวลาแสดงบนเวทีให้ทุกคนมอง
นัตตี้ : หัวเราะ ตลก หัวเราะ ยิ้ม
ช่วยพูดถึง Single แรกหน่อย เป็นเพลงที่พูดถึงอะไร และบ่งบอกถึง Magesta ยังไง
ถ้าเป็นเนื้อหาตรงๆ เลย คือพูดถึงการแอบชอบใครสักคนแล้วเราอยากอยู่ใกล้ๆ เขา แต่จริงๆ มันอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนกับคนรักอย่างเดียวก็ได้นะ เราอยากจะพูดถึงตัววงเราเองเหมือนกัน แบบถึงเราจะเป็น Magesta ก็เข้าถึงได้นะ เธอเข้ามาได้เลย เราอยู่ด้วยกันได้ เป็นเพื่อนกันได้ นอกจากนี้เราอยากให้รู้สึกว่าวงของเรา ไม่ใช่ทำมาเพื่อเป็นศิลปินกับแฟนคลับ อยากให้รู้สึกเป็นเพื่อนมากกว่า คอยสร้างอินสไปร์ให้แก่กัน เข้ามาใกล้เราได้ เราทำได้คุณก็ทำได้
อยากให้เล่าเกี่ยวกับการถ่ายทำ MV ให้ฟังหน่อย
แอมมี่ : พี่ทีมงานเขาเริ่มนัดกันตอน 05.40 น. ก็ได้กินข้าวมื้อแรก ซึ่งเป็นข้าวมื้อเดียวของหนูในวันนั้นเลย เพราะการถ่ายทำ จะมีถ่ายฉากต่างๆ ตลอดทั้งวัน พอถ่ายฉากนึงจบก็ต้องมาล้างหน้า แต่งหน้า แต่งตัวใหม่ ถึงจะเหนื่อยแต่หนูรู้สึกว่าอยากทำให้ MV มันออกมาดี ก็เลยสู้จนผ่านมันมาได้ค่ะ
เฟย์ : จะมีฉากเต้น ที่ต้องเต้นบนพื้นฉากที่เป็นเงาๆ ซึ่งเราต้องอย่าทำให้มันเป็นรอย แต่รองเท้าพวกเราค่อนข้างแข็ง เพราะเป็นคล้ายๆ ส้นสูง เราเลยต้องเอารองเท้าไปติดผ้ารองพื้นรองเท้าไว้ ทำให้เต้นยากกว่าปกติมากค่ะ
แก้ว : เพราะปกติเวลาซ้อมเต้นกันเราจะใส่รองเท้าผ้าใบซ้อม พอต้องมาใส่ส้นสูงในการเต้นทำให้เรายังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะมันจะรู้สึกลื่นกว่าใส่ผ้าใบ
ฮานิ : ถ่ายกันตั้งแต่ ตี 5 กว่าจะเสร็จคือเกือบๆ เที่ยงคืนได้แล้วค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากฝากอะไร ?
ยังไงก็ฝากผลงานซิงเกิ้ลแรกของพวกเรา ” อีกนิด (Baby Please!) “ ด้วยนะคะ รวมถึงพวกเราวง Magesta ด้วยนะคะ รับรองว่าในอนาคตก็จะมีอะไรออกมาให้เซอร์ไพซ์อีก เพราะเราจะไม่หยุดพัฒนาอย่างแน่นอนค่ะ
สามารถติดตามวง Magesta ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/magestagirlgroup
Instagram :
https://www.instagram.com/magesta.girlgroup/
YouTube :
https://www.youtube.com/channel/UCCFRTrVkGNvttCqa-oFk8Jg
แก้ว กรกมล ไม้แก้ว
IG : https://www.instagram.com/amkaewa.magesta
5 Fact
- คนชอบคิดว่าเป็นคนหวานๆ แต่จริงๆ เป็นคนห้าวๆ
- เลี้ยงแมวเปอร์เซียและแมวไทยรวมกันทั้งหมด 7 ตัว
- เป็นคนที่ถ้าชื่นชอบอะไรมากๆ ก็จะสนใจอยู่กับสิ่งนั้นได้เป็นเวลาที่นานมากๆ
- เป็นคนชอบเที่ยว เที่ยวทะเล ภูเขา ชอบ Adventure มากๆ กีฬาที่สนุกๆ หรือผาดโผน เล่นได้หมดเลย
- ชอบกินอาหาร ชอบกินทุกอย่าง เป็นเด็กผู้หญิงที่กินเก่งมากๆ
เฟย์ ดารินทร์ พิทยาผล
IG : https://www.instagram.com/fayebae.magesta/
5 Fact
- ชอบพูดอะไรมั่วๆ ที่ไม่มีความหมายต่อ Context ตรงหน้า แค่อยากพูดออกมา เหมือนว่าจะเป็นสมาธิสั้นเล็กน้อย แต่สมองน่าจะปกติดีค่ะ ถ้าคนที่เข้าใจจะไม่ถือสาค่ะ แต่ไม่เข้าใจก็แปลกได้ เลยไม่ค่อยปล่อยออกมาค่ะ
- Perfectionist อยากให้ทุกอย่างเป๊ะปังตลอดเวลา ถ้ารู้ว่าต้องทำยังไงก็อยากจะช่วยออกไป แต่ถ้าไม่รู้จะปล่อยวางและดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
- OCD Level ไม่รุนแรง ห้ามคนขึ้นเตียงโดยที่ไม่ได้อาบน้ำ ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าที่ใดไม่สะอาดจะรู้สึกไม่สบายใจมากๆ แต่สามารถอยู่ได้ค่ะ ตอนสมัยก่อนเข้ามหาวิทยาลัยคือพกสเปรย์แอลกอฮอล์ตลอดเวลา จะมีกลิ่นโรงพยาบาลติดตัว จนครูทัก หลังจากนั้นเลยเลิกใช้
- ชอบทำงาน ไม่ชอบอยู่ว่างเฉยๆ บ่นมาก แต่ก็ชอบทำงานค่ะ
- มีคนตั้งฉายาให้ว่า Love Power แปลว่า ชอบให้กำลังใจคนอื่น และชอบพูดออกมาว่า “เก่งมาก”
แอมมี่ นัทธมน ปิ่นทอง
IG : https://www.instagram.com/ammyy.magesta/
5 Fact
- หลายคนชอบเรียกชื่อเล่นผิด
- ชอบหมามากๆ
- ชอบมีคนบอกว่าตอนที่ยังไม่รู้จักดูหยิ่งๆ /แรงๆ
- ถ้าสนใจอะไรจะหมกมุ่นมากๆ 55555
- ชอบกินของดิบๆ แบบพวกกุ้งสด
ฮานิ นารา ทองเลิศ
IG : https://www.instagram.com/hni.magesta/
5 Fact
- การ์ตูน
- นิยาย
- ศิลปะ
- เพลงเก่าๆ
- โลกส่วนตัว
นัตตี้ กมลณัฐ วิชัยยุทธ์พงศ์
IG : https://www.instagram.com/nuttyy.magesta/
5 Fact
- ตาหมวย
- เป็นนุ่มนิ่ม
- เป็นคนจีน (ครึ่งจีนครึ่งไทย)
- ทาสของหวาน
- ทาสการตลาด